เรื่องสั้น อีเปรต หกห้า (สภาห้าเหว)

วันพฤหัสบดีที่ 7  เมษายน 2565

เรื่องสั้น อีเปรต หกห้า (สภาห้าเหว)

7

คม หักศอก  เอ่ยขึ้นว่า “เมื่อวานนี้แกเอา คู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต มาเพื่อชี้วัดว่านางแต้มนั้นเป็นโรคหลงตัวเอง  ฉันว่ามันยังไม่ชัดเจน เพราะถ้าแค่นั้น ทุกคนเป็นโรคหลงตัวเองกันทั้งนั้นจะน้อยมากต่างกัน  ปัญหาทางสังคมหรือวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์นั้น ไม่ได้เกิดจากนางแต้มเป็นโรคหลงตัวเอง แต่ปัญหาเกิดจากความหลงตนเองของกรรมการสภามหาวิทยาลัย หรือ กลุ่มคนที่มีอาการที่เรียกว่า นาร์ซิสซิสต์ (narcissist) หรือ ความหลงตนเอง โดยการแสวงหาความพึงพอใจจากความทะนงตนหรือการยกย่องว่าตนสำคัญกว่าผู้อื่น อันนี้รวมถึงสภามหาวิทยาลัยกำแพงมณี และสภาที่ปล้นเงินเดือนพนักงานทุกแห่งด้วย  กลุ่มคนเหล่านี้มีพฤติกรรมการหลงตนเองรุนแรงมาก เพื่อให้เข้าใจง่ายและเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ขอใช้นางแต้มเป็นไอดอล ของความหลงตนเองของคนกลุ่มนี้ ดังนี้

1.ความไม่ละอาย (Shamelessness) หรือหน้าด้าน  นางแต้มนั้นจะภูมิใจกับความหน้าด้านของตัวเองอย่างเปิดเผย ไม่สนใจความต้องการของคนอื่น  ความจริงนางเกลียดความอับอายขายหน้า เพราะทำให้นางรู้สึกว่าขาดความสมบูรณ์ และนางชอบความรู้สึกผิดมากกว่าความอับอาย เพราะความรู้สึกผิดทำให้นางแยกการกระทำกับเจตนาออกจากกันได้ เช่น นางอาจจะทำผิด แต่จะบอกว่า ทำไปเพราะเจตนาดี        

2.ความคิดเชิงไสยศาสตร์ (Magical thinking) นางแต้มจะเชื่อเรื่องผีสางเทวดาและหมอดู สร้างความสมบูรณ์แบบโดยการบิดเบือนและสร้างสิ่งลวงตา และป้องกันตัวเอง ด้วยการ “”โยน” ความผิดให้คนอื่น อันนี้ทำเป็นประจำ พวกสุนัขรับใช้โปรดระวังตัวด้วย                                                                       

3.ความทะนงตน (Arrogance) ยามใดที่นางรู้สึกว่ากำลังสูญเสียความสำคัญ นางจะพยายามเพิ่มความมั่นใจ ด้วยการกดผู้อื่นให้ต่ำลง หรือทำให้พวกเขาได้รับความอับอาย ซึ่งเกิดจากความอิจฉาริษยา (Envy) นั่นเอง

4.การมีสิทธิ์ (Entitlement) นางแต้มจะคิดว่าตนเองพิเศษกว่าผู้อื่น ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติตัวกับตนอย่างดี และเชื่อฟังทุกอย่าง  หากใครขัดขืน ก็จะถูกตอกกลับด้วยอำนาจและตำแหน่งหน้าที่ที่เหนือกว่า และถือว่าเป็นพวกสร้างปัญหา” หรือ “หัวแข็ง” เป็นเหตุให้นางขาดความมั่นใจ เกิดบาดแผลจากการหลงตัวเอง (narcissistic injury) จนกลายเป็นความคลั่งจากความหลงตนเอง (narcissistic rage) ในที่สุด ฉะนั้นตอนนี้ นางแต้มกำลังคลั่งจากกรณีหญิงผู้กล้าไม่กลัวนาง ทำให้นางรู้สึกขาดความสมบูรณ์ เพราะทำอะไรหญิงผู้กล้าไม่ได้  มีอาการบาดเจ็บสาหัสมาก                                                                      

5.การหาผลประโยชน์ (Exploitation) นางแต้มมักจะหาประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่และจากผู้อื่นในหลายรูปแบบ เช่นการปล้นเงินเดือนพนักงาน 1.5/1.7 ซึ่งพวกเขาอยู่ในฐานะที่ต้องทนยอมเพราะไม่สามารถต่อต้านได้  กลัวตกงาน (ตกงานใครก็กลัว)                                                                                                 

6.การไม่รู้ขอบเขตการปฏิบัติตน (Bad boundaries) นางแต้มขาดความเข้าใจขอบเขตของตน ทำให้ผู้อื่นตีตัวออกห่าง ไม่อยากปฏิสัมพันธ์ด้วย แต่ใครก็ตามที่สนองความหลงตัวเองของนาง จะได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษในลักษณะบุคคลในครอบครัวของนาง เช่น เจ้าส่งเดช เป็นต้น  “ฉันรักมันมากจริงๆ เจ้าส่งเดชนี่มันตายแทนฉันได้ .. ไอ้ห้า&อีห้า เอ้ย!”                                                                          

สรุปว่า มันคือสภาห้าเหว!

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *