จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง (เมิงอยู่ไหน)

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2564 

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง (เมิงอยู่ไหน)

29

วันนี้มีผู้แสดงความคิดเห็น 4  ท่าน ครับผม

สาธิต : ถ้าปอสิตมียีนส์พันธุกรรมเดียวกันกับแต้ม  ​ป่วยการที่จะเตือน​ พวกนี้มีความดัน(ทุรัง)​สูงมาก​ ข้าไม่ฟังใครทั้งนั้น​ แต่ทุกคนต้องฟังข้า​ ต้องทำตามข้า​เท่านั้น​ ชอบการประจบประแจงสรรเสริญเยินยอ​ ซึ่งเป็นโอกาสของพวกชั่วนิสัยสุนัข ได้กระดิกหางเข้าไปเลียเอาใจ​ นางจะมีความสุขที่ได้เลี้ยงพวกสุนัขเหล่านี้​ เพราะสั่งให้เห่ามันก็เห่า​ สั่งให้มันกัดใครมันก็กัด​ แค่โยนกระดูกติดเนื้อให้มัน​ มันก็ยอมตายถวายชีวิตให้ข้าแล้ว  ใครไม่สวามิภักดิ์ต่อข้า​ เอ็งก็อย่าหวัง​ ยิ่งพวกคอยจ้องจับผิดข้า​ ข้าจะบดขยี้ให้แหลกคาตีนข้าทุกตัว​ ไม่รู้จักข้าซ่ะแล้ว​555.​ เออ​ แล้วข้าเป็นใครวะ​ มาทำอะไรอยู่นี่​ ทำไมข้าร้อนอกร้อนใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ​ หวาดระแวงคนไปทั่ว​ ข้าไม่กล้าเดินคนเดียวมันเสียวสันหลัง ต้องมีฝูงสุนัขรับใช้อยู่ด้วยจึงค่อยยังชั่วหน่อย.. เอ​ ข้าเป็นใครกันน้า..”

ผู้สันทัดกรณี  : “การประชุม ITA ร่างแผน ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม การทุจริตประพฤติมิชอบและส่งเสริมจริยธรรม ของมหาวิทยาลัยกำแพงมณีนั้น เป็นโครงการที่ดี และจัดได้ถูกเวลาดีจังเลย เพราะเมื่อร่างแผนเสร็จอีก 3-4 วันถัดมา ผลของการไม่ปฏิบัติตามแผนก็จะบังเกิดผลให้เห็นทันที โดยประธานในการร่างแผนจะเป็นพรีเซ็นเตอร์เองว่าการสรรหาอธิการบดีครั้งที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่  ศาลอาญาทุจริตฯจะเป็นคนชี้ชะตาพรีเซ็นเตอร์ จะตกเป็นจำเลยหรือไม่ในวันที่ 1พฤศจิกายน นี้ ถ้าหากการร่างแผนจัดประชุมหลังวันที่ 1 พฤศจิกายน การจัดทำแผนดังกล่าวอาจต้องเลื่อนไปโดยไม่มีกำหนด หรืออาจถูกยกเลิกไปเลย เพราะขืนไม่ยกเลิกอาจถูกกล่าวว่าเป็นการกระทำของพวกเสื้อดำจัดขึ้นมาเยาะเย้ย  กรรมการสภาทั้ง10 คน ที่ตกเป็นจำเลยทำให้พวกเสื้อดำไม่มีที่ยืนในมหาวิทยาลัยและอาจต้องยืนตามสี่แยกถนนหรือหน้าศาลากลางจังหวัดเหมือนกับป้ายผ้าก็ได้ แล้วจะหาว่า ปอ ไม่เตือน”

ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล : “นั่นสิ การได้เงินหรือทรัพย์สิน ถ้ามาด้วยความถูกต้อง ก็น่ายินดี

แต่ถ้ามาโดยมิชอบ ก็น่าเป็นห่วง แต่คนบางคนอยากได้จนไม่กลัว  การเอาผิดเป็นเรื่องอนาคต

ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จนใจ ไม่รู้จักปล่อยวาง ไปดูหมอเส็ง อายุ 83ปี  เมียคนล่าสุดอายุไม่ถึง30 ปี

เงินสดหมุนเวียนวันละ 10 กว่าล้าน เงินเต็มตู้เอกสาร แต่พอจากไป เหรียญเดียว ก็หยิบติดตัวไปไม่ได้ จะอะไรกันนักกันหนา”

คม หักศอก : “ดูเหมือนว่าท่านสาธิตจะสงสัยว่า นางแต้ม และ คุณปอสิตเป็นใคร ทั้งๆที่บอกใบ้ไว้ตั้งแต่ต้นว่า ทั้งคู่มียีนส์พันธุกรรมเดียวกัน  จึงบ้าบอคอแตกเหมือนกัน มีความดันทุรังสูงมาก คนหนึ่งคือนางแต้ม เป็นหญิงชราโสด ตัวคนเดียวไม่มีสามี และเริ่มรู้สึกงงว่า “กูมาทำอะไรอยู่ที่นี่วะ จิตตกเพราะหวาดระแวงกินไม่ได้นอนไม่หลับ ส่วนอีกคนมีคือ คุณปอสิต มีสามีแล้ว แต่คืนนี้สามียังไม่กลับบ้าน เลยโทรไปถาม “เมิงอยู่ไหน?” มีเสียงตอบกลับมาว่า “เดียวกรูกับ..แป๊บบนึ่ง”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *