จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (ด่าให้สนุก)

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (ด่าให้สนุก)

คม หักศอก รู้สึกสะเทือนใจ กับเคราะห์กรรมของหญิงกล้า ที่เปรียบเสมือนเกลียวคลื่นที่ถูกกระหน่ำด้วยพายุความอาฆาตแค้นของนางแต้ม จนแทบหมดพลัง แต่พอดีมีลูกและหลานที่น่ารักช่วยเสริมพลังใจให้ฮึดสู้ ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ ตายเป็นตาย เข็ดแล้ว ไม่มีการยอมแพ้เป็นเด็ดขาด”

ส่วนกรวดหินบริเวณหลุมหิน แถวโรงโม่หิน เขากระโดง ก็โอดโอยเพราะโดนแรงโทสะของนางแต้ม หาเรื่องจะไม่ต่อสัญญาให้ จนพากันหงอไปหมด  ก็ทำได้แค่นั้น คม หักศอก ก้มหน้าลงมองดูพื้นดิน มีเสียงแทรกจากรอยแตกระแหงของดินที่เหมือนถูกอารมณ์ร้อนวูบวาบไร้จังหวะเวลาของนางแต้มและบริวาร เป็นเสียงก่นด่า สาบแช่งเล็ดลอดขึ้นมา ฟังได้ว่า “รู้แต่ว่าบ้านมันติดกระจกกันกระสุน ซึ่งคนปกติไม่ทำกัน มีแต่ “คนจัญไร” อย่างพวกมันทำกัน ไอ้อันดับต้นๆก็โชว์ยิงปืน ไอ้โดเรม่อนก็โชว์ซ้อมปืน ไอ้กูปรีซ่าจะย้ายพระศิวะ ท้าทาย  ทำป้ายคณะทับทาง จนมีคนตายบนตึกที่ทึกทักว่าเป็นของมัน บาปไม่สิ้นสุดไอ้พวกนรกชิงหมาเกิด” และบรรเลงเพลงคนจัญไรต่อไปว่า “ส่วนกรรมการสภาก็ชาติหมามาเกิด ร้องไปเถิด ฟ้องไปเถิดไม่เกิดอะไรทั้งสิ้น ไอ้ชวนชมแก่จะเข้าหลุมยังทำท่าระริกได้กินไก่อ่อนร่อนไปร่อนมา ไอ้ชาติหมาอีกตัว อย่าให้ได้เจอกูตบฟันร่วงแน่!!มึงจะได้ไปฟ้องแม่ว่า แม่แต้มจ๋าหนูปวดแข่ว!!!”

 คม หักศอก เงยหน้ามองดูท้องฟ้าด้านทิศใต้  ณ ขอบฟ้าไกลโพ้น มีเสียงโอดครวญมาว่า “เหมือนกันเลยละครับ กับคณบดี คณะมนุษยศาสตร์ฯ ม.ราชภัฎนครศรีฯ บรรจุวุฒิไม่รับรอง/เถื่อนหรือปลอม มันก็อันเดียวกัน ไม่ทราบว่าเป็นอาจารย์พนักงานมหาลัยได้ยังไง แบบนี้ก็เป็นโมฆะใช่ไหมครับ ผู้บริหารรู้ความแล้วกลับนิ่งเฉย แถมสภามหาลัยปูนบำเหน็จวุฒิเถื่อนให้เป็นคณะบดีด้วย ผมถามว่าใช้เงินภาษีของสภาฯหรือของประชาชนจ่ายเงินเดือนให้ไหม? ถ้าใช้ภาษีประชาชน สภามหาลัยและผู้บริหารรชภัฎนครศรี ต้องร่วมกันรับผิดชอบจ่ายเงินคืนราชการด้วย”

ส่วน ผศ.ดร. La Ph บอกว่า “เมื่อไหร่หนอ สภา ม.สารขัณฑ์ จะกล้าลืมตามองดูสภาพความเป็นจริงของการบริหารใน ม.สารขัณฑ์ และกล้าเปิดปากพูดในสิ่งที่เป็นหน้าที่ของสภาเสียที..หรือมีอะไรปิดทั้งหู ตาและปากจนทำตัวเป็นคนใบ้ไร้ศักดิ์ศรีของกรรมการสภา….”

“เสียงเพื่อน fc ตอบมาว่า “สงสัยปากอมเงินเหรียญจนเต็มปาก  เสริมด้วย ผศ.ดร.สาธิต ผลเจริญ “สภาขี้ข้าแต้ม ไร้ศักดิ์ศรี” และดีใจ ที่ จิปาถะ ทำให้ทุกคนมีอารมณ์ขันได้ ดัง ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล บอกว่า “ 555  ข้อสุดท้าย สังคมสนใจ เป็นอันดับหนึ่ง อ้าว ไม่รู้ซะได้ จบหักมุมจริงๆ”

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *