จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (คัดลอกผลงาน)

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (คัดลอกผลงาน)

เมื่อวานนี้ผมได้พูดถึงแนวโน้มของการอุดมศึกษาว่าจะตกต่ำลง เพราะเหล่าโจราทั้งใหญ่น้อยรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น ทำให้สถานการณ์ที่ ม. สารขัณฑ์ น่าเป็นห่วงมากขึ้น ซึ่ง ผศ.ดร.La Phบอกว่า “ตอนนี้การรับอาจารย์และบุคลากรของสารขัณฑ์ขึ้นอยู่กับนางแต้มและพรรคพวกเป็นสำคัญ ทำให้คนเก่ง คนดีที่ไม่ใช่พวกไม่มีโอกาสเข้ามาพัฒนาการศึกษา จึงพอจะเดาออกและเห็นได้ชัดว่าคุณภาพของการศึกษาจะเป็นอย่างไร แถมยังมีผู้บริหารที่ไร้คุณธรรม และมีนักวิชาการเก๊ๆๆ เป็นเหลือบในสถาบันและเป็นปัจจัยทางลบคอยฉุดให้การจัดการศึกษาตกต่ำลงไปอีก”

และมีเสียงกระซิบจากเพื่อน fc ว่า “ข่าวด่วนจ้า…รศ.ดร.คณบดี..ม.สารขัณฑ์ คัดลอกผลงาน นี้เป็นที่ถูกใจนางแต้มมาก…คณบดี..ไม่ผิด..คนถูกคัด ทั้ง อาจารย์ ทั้งนักศึกษา ป.โท เมื่อก่อน มี รศ.ท่านหนึ่งเป็นคนทำ..ตอนหลังท่านไม่ทำให้เพราะ..คนทำได้ค่าตอบแทน..น้อยกว่าคนไม่ได้ทำ..ฝากถามผู้รู้หน่อยนะค่ะ..ผิดขั้นไหนเอกสารชัดเจน..ฝากถาม..จิปาถะ..

เมื่อถามมาก็ต้องหาคำตอบให้ เดี๋ยวจะเสียกำลังใจ ถูกไม่ถูกไม่รู้ กรณีคัดลอกผลงาน ตาม พรบ. อุดมศึกษาไม่ได้ระบุชัดเจน อาจจะเข้าข่ายมาตราใดก็ได้ เช่น มาตรา 39 ระบุว่า  ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงธรรม ขยันหมั่นเพียร และดูแลเอาใจใส่รักษาประโยชน์ของทางราชการ ห้ามมิให้อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอำนาจหน้าที่ราชการของตนไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น

และมาตรา 40 ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา การรายงานโดยปกปิดข้อความซึ่งควรต้องแจ้ง ถือว่าเป็นการรายงานเท็จด้วย  การรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

ส่วน พรบ. ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ระบุไว้ค่อนข้างชัดเจนในมาตรา 91 ความว่า ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องไม่คัดลอกหรือลอกเลียน ผลงานทางวิชาการของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือนําเอาผลงานทางวิชาการของผู้อื่น หรือจ้าง วาน ใช้ผู้อื่นทําผลงานทางวิชาการเพื่อไปใช้ในการเสนอขอปรับปรุงการกําหนดตําแหน่ง การเลื่อนตําแหน่ง การเลื่อนวิทยฐานะหรือการให้ได้รับเงินเดือนในระดับที่สูงขึ้น การฝ่าฝืนหลักการดังกล่าวนี้ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ร่วมดําเนินการคัดลอกหรือลอกเลียนผลงานของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือรับจัดทําผลงานทางวิชาการไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ เพื่อให้ผู้อื่นนําผลงานนั้นไปใช้ประโยชน์ในการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

และที่เหมือนกันทุกเรื่อง คือ ต้องมีผู้กล่าวหา และมีพยานหลักฐานชัดเจน ถ้าไม่มีผู้กล่าวหา ก็คงไม่มีใครทำอะไรได้  เพราะถ้าไม่จริง ผู้กล่าวหา อาจถูกฟ้องเท็จได้ ครับผม

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *