วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ สำนวนไม้เมืองเดิม (สะอาดหมดจด  )

21

วันนี้  ดีใจมากจนอยากตะโกนให้ก้องฟ้า และสมน้ำหน้าอีแต้มจอมโหด  เพราะเงาของ “คุก” Jail กำลังทอดมาทับอีแต้มในเร็วๆนี้  เมื่อศาลอาญา สารคามบุรี ไม่รับรองการขอฏีกาของมัน ในคดีที่มันฟ้องอาจารย์และพนักงาน จำนวน 7 คน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยเอกสาร เป็นอันว่าคดีถึงที่สุดแล้ว  อีแต้มแพ้ราบคาบ ส่วนอาจารย์และพนักงาน ชนะอย่างขาวสะอาดหมดจด 

แต่เรื่องนี้ยังไม่จบ ฝ่านจำเลยจะแปลงร่างเป็นโจทก์และอีแต้มและไอ้ชมบุญ พยาน จะถูกสาปให้เป็นจำเลยในข้อหา ฟ้องเท็จ  เบิกความเท็จ ซึ่งมีความผิดอาญาตาม  มาตรา 175 ที่กำหนดว่า “ผู้ใดเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา หรือว่ากระทำความผิดอาญาแรงกว่าที่เป็นความจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท”

คดีนี้ ถ้าแยกฟ้องเป็นรายบุคคล นางแต้มจะติดคุกอย่างน้อย 30 ปี รับสารภาพลดกึ่งหนึ่งเหลือ 15 ปี  นรกชัดๆ ค่าปรับไม่มาก แค่ 4-5 แสนเท่านั้นเอง ขนหน้าแข้งไม่ร่วง  แต่ติดคุกนี่ นรกชัดๆ

เห็นไหมครับ ว่าผลกรรมที่อีแต้มทำไว้กำลังจะส่งผลในเร็วๆนี้ (อย่าเพิ่งโกรธกรรม) นี่เฉพาะที่ศาลสารคามบุรีนะครับ เพราะคดีเดียวกันนี้ นางแต้มฟ้องที่ศาลสารขัณฑ์ด้วย โดยแยกพยานเป็นคดีละ 1 คน รวม เป็น 3 คดี นับรวมกับคดีที่ สารคามเป็น 4 คดี   3 คดี ที่ศาลสารขัณฑ์ ศาลชั้นต้นยกฟ้องไปหมดแล้ว และอีแต้มกำลังทำเรื่องอุทธรณ์ ผมเดาเอาว่า ทั้ง 3 คดี นี้ อีแต้มก็จะแพ้ และโดนฟ้องกลับเช่นเดียวกัน

ประเด็นสำคัญสำหรับวันนี้ อยู่ที่ จำเลยที่เป็นฝ่ายชนะอย่างขาดลอยนั้น จะฟ้องกลับหรือไม่?  เพราะทุกคนที่ถูกฟ้องเป็นคนดี ซึ่งมีจุดอ่อนอยู่ที่ “ใจอ่อน / ขี้สงสาร” เห็นว่าอีแต้มแก่และเป็นบ้าด้วย  จึงสงสาร ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เลิกรากันไป  ส่วนที่โดนนางเล่นงานอย่างหนักนั้น “ถือว่าเป็นวิบากรรม” อีกอย่าง ได้เสียเงินเสียทองไปมากแล้ว บางคนหมดเป็นแสน

ครับ ผมก็ว่าไปอย่างนั้นเอง แต่อย่าให้เกิดขึ้นนะครับ “ถูกมันตีปางตาย เวลามันล้มแทนที่จะกระทืบซ้ำ ให้จมดินไปเลย กลับสงสาร”

ผมขอสัญญาว่า ถ้าคดีที่สารคามบุรี ไม่มีใครฟ้องกลับ ผมจะเลิกเขียน จิปาถะ ทันที และจะเป็นครั้งแรกที่ผม “ยอมแพ้”

…..