จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง/สารขัณฑ์  (ล้มสลาย) 

วันเสาร์ที่ 9 กรกฏาคม  2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง/สารขัณฑ์  (ล้มสลาย) 

9

ขอเริ่มต้นด้วยคำคม  “ระบบพวกพ้อง..ทำให้ระบบนิติรัฐ  นิติธรรม ล้มสลาย” (อาจารย์ฉวีวรรณ มีเคลือบ นิติกร) 

ล่าสุด กรณี ม.กำแพงมณี ศาลชั้นต้นรับคำฟ้องและต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ยกคำฟ้อง และนี่คงเป็นเหตุให้ นางปอสิตรักษากรรอธิการบดี (เถื่อน) ดีใจถึงกับปล่อยข่าวออกมาว่า นางกำลังจะได้รับการโปรดเกล้าฯ   เรื่องนี้ ผู้สันทัดกรณีบอกว่า “ความในตอนหนึ่งของหนังสือกระทรวงอุดมศึกษา ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2564ซึ่งมีมาถึงนายกสภามหาวิทยาลัยกำแพงมณี ” จึงขอให้ สภามหาวิทยาลัยกำแพงมณี ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการ เพื่อได้มาซึ่งผู้สมควร ได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิการบดี ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 พิจารณาตรวจสอบขอร้องเรียนให้เป็นที่ยุติ ครบทุกประเด็น และพิจารณาทบทวนการเสนอขอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคุณปรสิต ให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยกำแพงมณีต่อไปหรือไม่อย่างไร” เมื่ออ่านหนังสือแล้วสามารถสรุปมีความหมายดังนี้

    1. กระทรวงอุดมศึกษาไม่นำเรื่องเสนอโปรดเกล้า และได้ส่งเรื่องคืนให้สภามหาวิทยาลัยกำแพงมณี พิจารณาดำเนินการ ต่อไปดังนั้น การเสนอแต่งต้องยุติลงชั่วคราว จึงมีผลให้คุณปรสิต รักษาราชการเพียง 180 วัน เท่านั้น ถ้าเกินจากนั้นก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ได้อยู่ในระหว่างการดำเนินการแต่งตั้ง                                                 

2. ให้สภามหาวิทยาลัยกำแพงมณี ตรวจสอบข้อร้องเรียน ให้เป็นที่ยุติทุกประเด็น โดยเฉพาะกรณีที่ศาลชั้นต้น รับคำฟ้องและต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ยกคำฟ้อง ก็ตาม ผู้ฟ้องคดีก็ต้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ดังนั้นในกรณีนี้ ต้องรอจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษา จึงเป็นที่ยุติ ทำให้ ในระหว่างที่รอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดก็จะยังไม่สามารถที่จะดำเนินการเสนอแต่งตั้งเพื่อขอโปรดเกล้าฯได้                                                                                                           

3. ให้สภามหาวิทยาลัย กำแพงมณีพิจารณาทบทวน ว่าจะเสนอคุณปรสิตเพื่อดำรงตำแหน่ง อธิการบดีต่อไปหรือไม่ อย่างไร หมายความว่าให้สภามหาวิทยาลัย ยืนยันไปอีกครั้ง แสดงว่าขณะนี้คุณปรสิต ยังเป็นลูกผีลูกคน ห้าสิบห้าสิบอยู่ เมื่อประกอบกับอยู่ในหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด(ซึ่งผู้ฟ้องอุทธรณ์แน่นอน) ผลการตัดสินน่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4ปี ถ้าผลคดีออกมาเหมือนกับคดีของ มรภ.พิบูลย์สงคราม คือการสรรหา อธิการบดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งสร้างความเจ็บปวดแก่ผู้เสียหายจนยากแก่การเยียวยา ซึ่งสมควรที่ผู้เสียหาย จะต้องฟ้องคดีอาญากับนายกและกรรมการสภาต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป เพื่อให้ศาลลงโทษและจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างแก่มหาวิทยาลัยอื่นๆต่อไป แต่ถ้าผู้เสียหายไม่ฟ้องคดีอาญาก็ถือว่าเป็นความโชคดีของนายกและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ที่เจอคนใจดี

สรุปได้ข่าวว่าสภามหาวิทยาลัยกำแพงมณีได้แอบเสนอคุณปรสิต ไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 แล้วก็ตาม ก็อย่าได้หวังว่ากระทรวงอุดมศึกษาและสำนักเลขาคณะรัฐมนตรี จะเสนอต่อ ตามที่คุณปรสิตได้โม้ไว้ เพราะทั้ง2หน่วยงานจะตรวจสอบอยู่อย่างเข้มข้นตามคำสั่งของท่านนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขัดกับหนังสือสั่งการของสำนักเลขาคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเสนอโปรดเกล้าฯหลายครั้งแล้ว อาทิเช่นกรณี กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น  จึงเป็นเหตุให้คุณปรสิต ได้เป็นแค่ อธิการบดี (หัวใจ) เถื่อน ใจร้ายเหมือนคนป่า ความเฉยเมยเฉื่อยชา ถ้อยวาจาเหมือนมีดกรีดเฉือน แสนอาลัยไม่คบใครเป็นเพื่อน

ใจเหมือนใจคนเถื่อน ไม่เคยยิ้มเยือนกับใคร

จึงขอจบด้วยคำคมมอบให้ ผู้เสียหายที่ ม.กำแพงมณีเป็นเครื่องเตือนใจหากไปเป็นกรรมการสภาที่มหาวิทยาลัยไหนจะได้ไม่ไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้องแก่ใครๆให้เจ็บปวดต่อไปว่า ” เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย”

ส่วน ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล บอกว่า “บางแห่ง ก็มีหนังสือตอบกลับ แบบนี้เหมือนกัน หลายรอบด้วย แต่ก็ซิกแซกดันทุรัง จนได้รับโปรดเกล้า ถ้าโดนคนฟ้องจนแพ้ แบบ ม.ขอนแก่นละก้อ ดูไม่จืดละ และเสริมว่า “ดับฝันกลางวัน อย่าลืม คนที่ศาลสั่ง คนขอนแก่นน่ะ เอาลงด้วย คนเราควรไปหาทำสิ่งดีๆ สิ่งที่ถูกต้องเฮอะ ชีวิตจะได้เจริญ และมีความสุข

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *