จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน  (นศ.ถล่มสภาฯ)

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน  พ.ศ. 2564 (กรอบเช้า)

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน  (นศ.ถล่มสภาฯ)

10

เมื่อวานนี้ วันที่ 9 เดือน 9 วันฤกษ์ดีมีชัย ที่เชื่อกันว่าทำอะไรก็จะประสบผลสำเร็จ จึงปรากฏว่า มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ กล่าวคือ  สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์  ได้ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้บริหารสูงสุดของมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ แจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับนักศึกษา ในแถลงการณ์กล่าวว่า 

ตามที่สภานักศึกษา มหาวิทยาลัย ได้รับหนังสือขอความเป็นธรรม ของนางสาว อ. (ชื่อสมมุติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 กรณีถูกนางแต้ม แจ้งความในข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาณผู้อื่น ซึ่งนางสาว อ. ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว โดยส่งผลให้นักศึกษาเสียชื่อเสียง อับอายผู้คน รวมถึงผลกระทบต่อหน้าที่การงานในอนาคต ทางสภานักศึกษาฯ ได้มอบหมายให้ คณะกรรมาธิการกฎหมายและวินัยนักศึกษา ได้กลั่นกรองหาข้อเท็จจริง และสอบถามนางสาว อ. รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง

ทางสภานักศึกษา ในฐานะองค์กรที่ รับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา และเสนอความคิดเห็นประเด็นต่างๆ ที่มีผลกระทบกับนักศึกษา จึงขอเรียกร้องให้สภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงและดำเนินการ ดังนี้

1. เรียกร้องสภามหาวิทยาลัยฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการชี้แจงกรณีผู้บริหารสูงสุดของมหาวิทยาลัยแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับนักศึกษา เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุบางส่วนเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยฯ

2. เรียกร้องให้สภามหาวิทยาลัยฯ พิจารณายุติการปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนอธิการบดีฯ

ของนางแต้ม เนื่องจากเป็นคู่กรณีกับนักศึกษา อาจส่งผลถึงความปลอดภัย การเรียน และ

การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของนักศึกษา รวมถึงอาจส่งผลต่อรูปคดีและพยานหลักฐานต่าง ๆ

3. เรียกร้องให้สภามหาวิทยาลัยฯ ให้ความเป็นธรรมกับนักศึกษาที่ ถูก แจ้งความดำเนินคดี

หมิ่นประมาท

จากเหตุผลตังกล่าว เนื่องจากนางแต้มอยู่ในตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิการบดี ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดในมหาวิทยาลัย เปรียบเสมือนแม่ และนักศึกษาเปรียบเสมือนลูก ที่คนเป็นแม่จะต้องดูแล

หากเกิดเหตุอันใดก็ตาม แม่ควรที่จะเรียกมาพูดคุยภายในก่อน แต่นางแต้ม กลับแจ้งความเอาผิด

นักศึกษาข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งสภานักศึกษาได้ตรวจสอบจากเอกสารหลักฐานและพยานแล้ว เห็นว่านางสาว อ. อาจไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังที่ถูกกล่าวหา ในทางปฏิบัตินางแต้ม ควรจะพูดคุยกับนักศึกษาเป็นการภายในก่อน ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ถูกหลักธรรมาภิบาลระหว่างผู้บริหารกับนักศึกษา

สภานักศึกษา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ จะดำเนินการตามหลัก

ธรรมาภิบาล ในการแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อความเป็นธรรมกับนักศึกษาที่ถูกดำเนินคดีและผู้ที่ได้รับผลกระทบอื่น ๆ อันก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของมหาวิทยาลัย และวงการศึกษาต่อไป

สภานักศึกษา  มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์

9  กันยายน  2564

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *