จิปาถะ เรื่องสั้น สำนวนไม้เมืองเดิม (“คุก” ไม่ใช่คุกกี้ นะครับ)

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น สำนวนไม้เมืองเดิม (“คุก” ไม่ใช่คุกกี้ นะครับ)

21

ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของกลุ่มบุคล ซึ่งได้แก่ อีแต้ม อธิการบดี เป็นหัวโจก โดยมี ท่านชมบุญ ,ท่านคนระดับต้นๆ ท่านธิอิน และท่านชานำ เป็นพยานสำคัญ ร่วมเป็นโจทก์ โดยเอาความอันเป็นเท็จฟ้องอาจารย์และพนักงานมหาลัยต่อศาลสารคามบุรี และศาลสารขัณฑ์ กล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา หรือกระทำความผิดอาญาแรงกว่าที่เป็นความจริง ซึ่งจะถูกฟ้องกลับ มีโอกาสแพ้แน่นอน และจะต้องถูกลงโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท”

ตอนนี้กลุ่มคนทั้ง 5 คน คงจะหนาวกันจนคางสั่น หรือไม่ก็ร้อนจนเหงื่อแตกพลักๆ เพราะจะต้องถูกฟ้องคดีที่แทบจะไม่มีทางสู้ มีแต่แพ้ลูกเดียว ซึ่งนอกจากจะต้องติดคุกแล้ว อาจจะต้องเสียทรัพย์สินเงินทอง เพราะโจทก์คงจะฟ้องเรียกว่าเสียหายไปพร้อมกันด้วย

คิดแล้วก็น่าสงสารพวกที่มาเป็นพยานให้นางแต้ม ผมงงเหมือนกัน เรียนมาก็ตั้งเยอะ ทำไมถึงปึกขนาดนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเองสักหน่อย เสือกเข้าไปร่วมวงกลับเขาได้ คราวนี้หัวใจของพ่อแม่ลูกเมียจะล่มสลายลงอย่างสิ้นเชิง เพราะมันเท่ากับเปลี่ยนวิถีชีวิตจากหัวหน้าครอบครัวเป็นครูบาอาจารย์ เป็นที่เคารพนับถือ กลับกลายมาเป็น “คนคุก” ที่ใครๆก็รังเกียจ เจ็บปวดแน่นอน

เท่าที่ทราบ ดูเหมือนว่า คนหนึ่งอุตสาห์ย้ายมาจาก ม.ในเมืองหลวง เพื่อจะมาติดคุกที่สารขันฑ์ อีกคนหนึ่งแว่วว่าเป็นครูเป่าโลหะ ประเภทเครื่องทองเหลือง คราวนี้อาจต้องไปเป่าเหล็กแทน ส่วนอดีต ผอ. เมืองกุ้งจ่อม หน้าตาดูปึกๆ แต่พอดี นางติ่มซำ วางแผน เพื่อจะได้แยกทางกัน ช่างล้ำลึกเสียจริง

ส่วนคนที่อยู่สารครามบุรี ถือว่าตายตอนแก่ เพราะนิสันสันดานขี้ประจบ เมื่อได้รับหนังสือร้องเรียนก็รีบวิ่งแจ้นมารายงานนางแต้มทันที อยากเอาหน้า สมน้ำหน้ากระลาหัวเจาะ มึง ต่อไปก็จะไปประจบขี้ ในคุก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *