จงมีจิตอนุเคราะห์ตามกาล

india

จิปาถะ
จงมีจิตอนุเคราะห์ตามกาล

เพื่อนๆมักจะพูดว่า “แกเป็นคนชอบหาเรื่อง ประเภทไม่มีเหาหาเหาใส่หัว ไม่มีเรื่องหาเรื่องใส่ตัว” พร้อมกับเตือนว่า “เรื่องของคนอื่นอย่าไปยุ่งกับเขา เพราะมีแต่เสียกับเสีย”
ผมไม่รู้จะตอบความหวังดีของเพื่อนว่าอย่างไร ก็เลยเล่านิทานให้เพื่อนฟัง 1 เรื่อง ดังนี้

กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว ยังมีหมาจิ้งจอกเฒ่าตัวหนึ่ง มีใจเมตตา ไม่เคยมุ่งร้ายต่อใครไม่อิจฉาริษยาใคร แต่เป็นหมาจิ้งจอกที่มีน้ำใจ เมื่อพบเห็นใครได้รับความเดือดร้อน หากสามารถช่วยได้ก็ไม่ลังเลใจจะช่วยทันที วันหนึ่งขณะที่เดินผ่านริมหนองน้ำ เห็นงูตัวหนึ่งกำลังคาบกบอยู่ในปากพร้อมที่จะกลืนกิน มันจึงคาบกิ่งไม้และเหวี่ยงไปที่พงหญ้า งูตกใจว่าอันตรายจะมาถึงตัวอ้าปากทำให้กบหนีไปได้
จากนั้น งูจึงเลื้อยมาที่หมาจิ้งจอกเฒ่า และพูดอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์ว่า
“ท่านหมาจิ้งจอก เวลาท่านจับกระต่ายกินข้าไม่เคยขัดขวางท่านเลย ทำไมท่านจึงต้องช่วยเจ้ากบตัวกระจ้อยร่อยที่มันกำลังจะเป็นอาหารของข้า”
หมาจิ้งจอกเฒ่าตอบว่า “ข้าเป็นสัตว์มีศีล เดี๋ยวนี้ข้าเลิกฆ่าและกินเนื้อสัตว์แล้ว ข้ากินแต่ผักผลไม้เท่านั้น”
งูแย้งว่า นั่นเป็นเรื่องของท่าน “แต่กบมันเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของข้า มันเป็นธรรมชาติของสรรพสัตว์”
และให้ข้อคิดว่า “ถึงแม้ว่า วันนี้ท่านช่วยกบตัวนี้ได้ แต่ท่านคงไม่สามารถช่วยมันได้ทุกครั้งหรอก มันไม่เป็นอาหารของข้า มันก็จะเป็นอาหารของงูตัวอื่นหรือไม่ก็เป็นอาหารของมนุษย์จนได้
หมาจิ้งจอกเฒ่าได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าและกล่าวว่า
“ที่ท่านพูดมานั้นถูกต้องทุกอย่าง แต่ข้านั้น ถ้าผ่านไปเจอใครที่จะถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา ข้าก็จะช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ วันหนึ่งถ้าข้า เห็นท่านจะถูกนกกินเป็นอาหาร ถ้าข้าช่วยได้ข้าก็จะช่วยท่านเช่นเดียวกัน”
งูได้ยินดังนั้นก็อึ้ง และเลื้อยจากไปโดยไม่ต่อล้อต่อเถียงกับหมาจิ้งจอกอีก
นิทานเรื่องนี้สอนว่า “จงมีจิตอนุเคราะห์ตามกาล” แต่อย่างว่าแหละ สังคมปัจจุบันเห็นถ้าจะต้องรอบคอบสักนิดหนึ่งครับ แต่ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนก็อย่างได้ลังเลใจครับ
……….
อ้างอิง
พ. ศรีสมิต.(2546).นิทานก่อนนอนสอนใจคุณหนู.กรุงเทพ :ไพลิน.