ขอหนังจากเสือ

tiger

จิปาถะ
ขอหนังจากเสือ
ในโพสต์ จงเจริญเมตตาพรหมวิหารอยู่เป็นนิตย์ ได้นำเสนอว่า อย่าเสียเวลาไปขอร้องความเมตตาพรหมวิหารจากผู้บริหารเลย เพราะเขาไม่มี วันนี้ขอเพิ่มเติมเข้าไปอีกว่า ถึงแม้ว่าเขาจะมีเขาก็ไม่ให้ เพื่อก็ตรงกับสำนวนจีนที่ว่า “ขอหนังจากเสือ”
สำนวนจีน “ขอหนังจากเสือ” แต่เดิมเขาใช้ว่า “ขอหนังจากหมาจิ้งจอก ขอเนื้อจากแพะ” มีต้นตอมาจากนิทานเรื่องหนึ่งในหนังสือ “ฝู่จื่อ” ในสมัยราชวงศ์โจว
เรื่องมีอยู่ว่า มีกระทาชายนายหนึ่ง มีรสนิยมสูง ชอบใส่เสื้อหนัง วันหนึ่งเกิดคิดขึ้นได้ว่า เสื้อหนังของแกนั้นน่าจะเป็นหนังหมาจิ้งจอก เพราะมีขนนุ่มดี คิดได้ดังนั้นแกจึงไปปรึกษาหมาจิ้งจอก
เท่านั้นยังไม่พอแกยังคิดเลยเถิดต่อไปอีกว่า แกน่าจะรับประทานอาหารดีๆ เช่น สเต็กเนื้อแพะ, เนื้อแพะตุ๋นยาจีน เป็นต้น จึงไปปรึกษาแพะ
แต่ปรากฏว่าทั้งหมาจิ้งจอกและแพะเมื่อเห็นว่าตัวเองจะต้องสูญเสียก็พากันหลบหนีไปแอบซ่อนกันหมด
สำนวน “ขอหนังจากหมาจิ้งจอก ขอเนื้อจากแพะ เป็นสำนวนดั้งเดิม ส่วนสำนวนที่พัฒนาขึ้นใหม่คือ “ขอหนังจากเสือ” ในสำนวนใหม่นี้เน้นให้เห็นถึงความดุร้ายและความถ่อยของผู้ที่เสียผลประโยชน์
“การขอร้องให้เสือเสียสละหนังของตนนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องเพ้อเจ้อฉันใด การขอร้องให้คนพาลคนถ่อยเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัว ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และเพ้อเจ้อฉันนั้น (ส.สุวรรณ.113)
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าได้หวังผลประโยชน์จากคนถ่อยคนพาล
………
ส.สุวรรณ.(2541).สำนวนจีน.พิมพ์ครั้งที่ 3 .กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์พิราบ.

Comments are closed.