จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรต หกห้า (เข้า Mode ปกติ)

วันเสาร์ที่ 5  มีนาคม  2565

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรต หกห้า (เข้า Mode ปกติ)

5

เดี๋ยวคุณก็ชินไปเอง. ภาษาฝรั่งว่า “You’ll get used to it.”  เป็นคำปลอบใจตัวเองเมื่อต้องตกอยู่ในสภาวะที่ต่างไปจากปกติ เช่น ตอนใส่ฟันปลอมใหม่ๆ รู้สึกรำคาญปากมากเลย เหมือนอมอะไรไว้ตลอดเวลา หัวหูปวดไปหมด เวลากินอาหารดูเหมือนฟันปลอมคอยแต่จะหลุดออกมาอยู่เรื่อยๆ บางครั้งเคี้ยวอาหารอยู่ดีๆก็ต้องหยุดชะงัก เพราะดันไปเคี้ยวเอาฟันปลอมเสียนี่ แต่นานเข้าก็ชินไปเอง

ตอนนี้ โควิด ยังใม่หยุดระบาด  ออกจากบ้าน จะต้องใส่หน้ากากทุกครั้ง บางครั้งต้องใส่ถึง 2 ชั้น น่ารำคาญ แต่ก็ต้องทน เพราะกลัวติดเชื้อ  พอมานึกดูก็ขำตัวเอง ตอนยังไม่มีโควิด เคยแพ้อากาศ  เดินตามถนนรู้สึกอายๆที่ต้องใส่หน้ากาก ดูเป็นคุณหนูเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อไป จะเข้าธนาคาร รปภ.ก็บอกให้ถอดหน้ากากก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าไปไหนก็ต้องใส่หน้ากาก ถ้าไม่ใส่ ไม่ว่า เซเว่น หรือ ธนาคารก็ไม่ให้เข้า และก็อย่างว่า  แล้วก็ชินไปเอง

ที่สาธยายมาเสียยืดยาวนี่ ก็เพื่อจะตอบคำถามของเพื่อน fc คุณ S.S ที่ถามมาว่า  “เรื่องของ ม.กำแพงมณีไปถึงใหนแล้วคะ และเรื่องน่าจะจบในทิศทางใด” คำตอบคือ “แล้วพวกเขาก็จะชินกันไปเอง”

ไม่มีอะไรในกอไผ่ ครับผม หมายความว่า ฝ่ายต่อต้านก็รอเรื่องที่ฟ้องศาลอุทธรณ์ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปี  ส่วนผู้บริหารโดยเฉพาะคุณปอสิตหรือ หนูซอมบี้ ก็หน้าด้านหน้ามึน ตีกินไป ซึ่งเป็นไปตามความเคยชินนั่นเอง 

กลับมาที่ ม.สารขัณฑ์ ดูเหมือนครูบาอาจารย์และพนักงานจะเคยชินจนชินชาไปกับความเคยชินที่อยู่กับนางแต้มมา 8  ปีกว่าแล้ว และอาจตายด้านไปเมื่อครบ 12 ปี

ส่วนนางแต้ม นังตัวแสบ ตัวละครของผม หรืออธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ อย่านึกว่านางจะสบายนะ นางมีอาการ เหมือนตอนใส่ฟันปลอมใหม่ๆ จนอยากเอาค้อนปอนด์หรือค้อนหงอนเหวี่ยงไปที่ปาก ให้ฟันหลุดร่วงหมดปากไปเลยจะได้หมดเรื่อง  เพราะนางตกอยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติ มีปัญหารุมเร้าบานตะเกียง  หัวกระบาลจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆเหมือนแตงโมถูกผ่าแปด นางจะบ้าตายอยู่แล้ว

ไม่เชื่อรึ ดูคริปนี่ซิ

คริปหลุด  “ณ มุมห้องที่มีแสงสลัวๆ นางแต้มนั่งชัดเขาขดตัวอยู่ที่นั่น แขนทั้งสองวางกองอยู่บนเข่า ปลายแขนห้อยร่องแร่ง หัวพาดซบแนบอยู่บนแขนด้วยจนแยกไม่ออกว่าไหนคือหัว,ไหนคือแขน,ไหนคือเข่า เนื้อตัวมอมแมมด้วยเหงื่อกาฬ เสื้อผ้ายับยู้ยี่ขาดหวิ้น เหมือนคนบ้าเดินกลับไปกลับมาแถวชานชาลาสถานีรถไฟหนองตาด  ใบหน้าที่เหี่ยวย่นตามวัยไร้เมคอัพ แห้งซีดเซียวไหม้เกรียมเป็นหย่อมๆยังกับปิ้งไก่เสียบไม้ค้างคืน ดวงตาบวมช้ำบ่งบอกถึงการนอนไม่หลับ ร้องห่มร้องไห้อย่างหนักทุกข์ทรมาน นางใช้แขนปาดขี้หมูกที่ไหลยืด ทันใดนั้นนางกรีดร้องเสียงแหลมคล้ายเสียงเปรตหิวโหยที่คลุ้มคลั่ง ทิ้งตัวให้กลิ้งไปตามพื้นห้องอย่างทุรนทุราย   จบคริป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *