เรื่องสั้น เหตุเกิดที่ ม. สารขัณฑ์ (ไอ้ขี้หมา)

เรื่องสั้น เหตุเกิดที่ ม. สารขัณฑ์ (ไอ้ขี้หมา)

15

นีนา : คม แกเคยฟังเรื่อง “หมาต้องกินขี้ไหม?” “ไม่เคย เรื่องเป็นอย่างไรล่ะ?”“มีชาวนาคนหนึ่งถือมีดยาวคมกริบเข้าป่าไปตัดฟืน ขณะเดินอยู่ก็เกิดปวดท้องขี้ เลยหาที่เหมาะๆปลดทุกข์เสียเลย โดยเอามีดปักไว้ใกล้ตัว ขณะนั้นมีหมากำลังวิ่งไล่แมวมาติดๆอย่างไม่คิดชีวิต แมววิ่งผ่านมีด ถูกมีดผ่าออกเป็น 2 ซีกวิ่งหนีต่อไป หมาวิ่งไล่ตามมาติดๆ วิ่งผ่านมีด ถูกมีดผ่าออกเป็น 2 ซีกเหมือนกัน แต่ซีกหนึ่งวิ่งไล่ตามแมวไป ส่วนอีกซีกหนึ่งหันหลังกลับมากินขี้ เพราะถ้าเป็นหมา “ต้องกินขี้” ไม่กินขี้ ไม่ใช่หมา”มีนา จัน หัวเราะงอหาย และบอกคมว่า “เรื่องหมากินขี้ ที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ก็มีเหมือนกัน แต่เป็นหมาขี้เรื้อน เรื่องมีอยู่ว่า มีหมาขี้เรือนฝูงหนึ่ง มีแม่หมาเป็นหัวหน้าฝูง แต่ไม่ใช่แม่จริงหรอก แต่รักและเคารพมากกว่าแม่ตัวเอง พวกหมาขี้เรื้อนส่วนมากเป็นหมาท้องถิ่น มีบางตัวหลงมาจาก บางเขน โน่น ตอนมาใหม่ๆก็ยังเป็นหมาปกติ อยู่กับแม่หมาขี้เรื้อนนานเข้าก็เลยกลายเป็นหมาขี้เรื้อนไปทั้งฝูง เรียกว่าสิ่งแวดล้อมเป็นพิษปรากฏว่ามีหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง ได้ดิบได้ดีมาจากแม่หมา และได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในสภาฯเสือ กระบาก ดังนั้น เมื่อหมาขี้เรื้อนตัวนี้เอาหนังเสือกระบากมาคลุมตัวไว้ ก็จะดูเหมือนเสือกระบาก และเนื่องจากเป็นหมาปากสว่าง จึงมักจะนำเรื่องในสภาฯมาเล่าให้แม่หมาฟัง ทำให้แม่หมาขี้เรื้อนโกรธ และหาทางเล่นงานพวกที่ต่อต้านอย่างหนัก ส่วนตัวเองก็เอาหนังสือกระบากทำกร่างไปทั่ว พอดีเหลือบไปเห็นกองขี้ สันดานหมาขี้เรื้อนตัวนั้นก็ปรากฏ กระโดดใส่กองขี้ทันที เพราะเป็นหมาต้องกินขี้ และกินขี้อย่างเอร็ดอร่อย และคาบไปฝากแม่หมาขี้เรื้อนด้วย แม่หมาขี้เรื้อนเห็นขี้ก็กระโดดใส่เหมือนกัน เพราะเป็นแม่หมาขี้เรื้อนตะกละ กินมูมมาม ขี้จึงติดเต็มปาก และเที่ยววิ่งเช็ดปากไปทั่วมหาลัย ทำให้ประชาคมแตกตื่น จึงเอาสตริกนินใส่ขี้ให้กิน หมาขี้เรื้อนก็เลยตายทั้งฝูง”คม ถามว่า “เรื่องนี้เป็นการเปรียบเทียบสถานการณ์ปัจจุบันของ ม.สารขัณฑ์หรือเปล่า?”มีนา บอกว่า “ใช่แล้ว” คม จึงขอร้องว่า “ไม่ต้องยกตัวอย่างหมาขี้เรื้อนให้เสียเวลา เล่าเรื่องจริงมาดีกว่า”มีนา บอกว่า “ได้ เรื่องจริงเป็นอย่างนี้ ….ตามปกติ กรรมการสภามหาวิทยาลัยที่ได้รับการสรรหามานั้น จะเป็นคนดี มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่ง อีกทั้งเป็นที่พึ่งของ อาจารย์และข้าราชการ รวมทั้งพนักงานราชการ เมื่อใดที่มีเรื่องคับข้องใจ มีปัญหา ก็จะทำหนังสือแจ้งสภาฯเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหานั้นๆ เช่น ปัญหาเรื่องการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรักษาการอธิการบดี เป็นต้น ซึ่งสภาก็จะนำปัญหาเหล่านั้นมาปรึกษาหารือ เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาต่อไปแต่ปรากฏว่ามีกรรมการสภาฯท่านหนึ่ง เป็นคณบดี คณะปีศาจ มีวุฒิภาวะต่ำ (ช้า) ไม่เหมาะ สมกับตำแหน่ง กรรมการสภามหาลัยอันทรงเกียรติ แต่ทำตัวเป็นหมาขี้เรื้อน คาบเอาเรื่องในสภาฯไปบอก แม่หมาขี้เรื้อนของมัน จนแม่ของมัน ซึ่งกำลังบ้าและ จนตรอกอยู่ขณะนี้ ได้ไล่งับ และกัด ทุกสิ่ง ทุกอย่างที่ขวางหน้ามัน จนเป็นที่อับอายขายหน้าประชาชีทั้งจังหวัด และข้าราชการบนโรงพัก สำนักงานอัยการ และศาล จนเป็นเรื่องเล่าขานเป็นที่ตลกขบขัน ที่นางแต้ม บ้า คลุ้มคลั่ง คอยแต่จะแจ้งความดำเนินคดี และฟ้องร้องที่ศาล จนเลอะเทอะไปหมด ทั้งมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์”“เรื่องนี้ผู้สันทัดกรณี ได้เสนอแนะ บุคลากร ของมหาวิทยาลัย ทั้ง 7 คน ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ
1.กรรมการสภามหาวิทยาลัย สารขัณฑ์ คน ที่นำเรื่องดังกล่าว ไปเผยแพร่ ให้ผู้ ที่ถูกกล่าวหา (นางแต..)ทราบ ในความผิดตามมาตรา 157

2. แจ้งความดำเนินคดีกับนางแต… ในความผิด ตามมาตรา 145 และมาตรา137

3.แจ้งความไม่ดำเนินคดีกับนายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ในความผิดตาม มาตรา157 ฐานดำเนินการสั่งให้นางแต..หยุดปฏิบัติหน้าที่รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายปลาซิวปลาสร้อย 7 ตัว สามารถตกปลากระพงตัวโตๆได้เป็นเข่งๆ ที่สำคัญ ปลาซิวปลาสร้อยเหล่านั้นไม่ได้ถูกกินแม้แต่ตัวเดียวเลย(เพราะกฏหมายให้ความคุ้มครอง ตาม ป.อาญา ม.329(4)”ขอบคุณความโง่ของที่ปรึกษากฏหมาย ของนาง แต…555″….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *