เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน วิบากกรรม

heads

จิปาถะ

เรื่องสั้น  หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน  วิบากกรรม

148

เหมือนฝนที่ตกลงมาขับไล่ความร้อนระอุของพื้นดินที่แห้งผากให้คลายความร้อนลงบ้าง  เมื่อนางแต้มเหลือบไปเห็นขันน้ำและอาหารที่ส่งเข้ามาทางด้านล่างของประตูยุ้งข้าว  นางรีบคลานถลาไปที่ประตูจนเกือบทำให้น้ำหก นางหยิบข้าวเหนียวเท่ากำปั้นเด็กอ่อนและหมูปิ้ง 1 ไม้มากินอย่างมูมมามเพื่อให้ทันกับความหิวโหย  ชั่วพริบตา ทุกสิ่งทุกอย่างก็หมดเกลี้ยง  นางใช้ลิ้นเลียไม้เสียบเพื่อเก็บเศษชิ้นเนื้อและรสหวานของหมูที่ติดไม้และเลียมือเก็บความเหนียวของข้าวอย่างเสียดาย  นางร้องลั่น “ทำไมจึงให้ฉันกินแค่นี้นะ พวกแกจะทรมานฉันไปถึงไหน เอาฉันไปฆ่าเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียเลยไม่ดีกว่าหรือ  เจ้าหัวหน้าบ้า  แกอยู่ที่ไหน มาพูดกันหน่อย มาคุยตกลงกันหน่อย จะเอาอย่างไรก็ว่ามา  อย่าคิดว่าตัวเองมีอำนาจ อยากจะทำอะไรก็ทำตามใจชอบไปเสียทุกอย่างนะ  อย่ารวมหัวกันเพื่อทำร้ายฉันนะ ฉันไม่ยอมเด็ดขาด พวกแกเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร”

149

“แต่นั่นแหละ ถ้าแกไม่ยอมมาตกลงกับฉัน ทำเป็นไม่สนใจใยดี คิดว่าตัวเองมีอำนาจวาสนา ฉันก็คงเหลืออยู่เพียงหนทางเดียว  มันเป็นวิธีของผู้ยากไร้และสิ้นหวัง นั่นก็คือ ฉันจะสาปแช่งพวกแก  แกรู้หรือไม่ว่า คำสาปแช่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับมนุษย์คืออะไร ฉันจะบอกให้ก็ได้  มันคือคำสาปแช่งที่ไม่ให้แกตาย ให้แกอยู่เป็นอมตะ  แกจะโดนสาปแช่งแบบนั้น  แกจะไม่ตาย  แต่แกจะแก่เฒ่าไปตามกาลเวลา หน้าตาแกจะเหี่ยวย่นบิดเบี้ยวเหยเก เต็มไปด้วยริ้วรอยของความน่าเกลียดน่ากลัว    และนั่งซ็อกง็อกอยู่อย่างนั้น  เวลาเดินก็จะเดินง่องแง่งๆ ไปไหนมาไหนอย่างยากลำบาก บางทีแกอาจเป็นอัมพาต ต้องนอนติดเตียง ไปไหนมาไหนไม่ได้  นอนซมอยู่บนที่นอน แผลกดทับก็จะเกิดขึ้นเพราะไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย  น้ำหนองจะไหลเยิ้ม เปื้อนเปรอะไปทั่ว ส่งกลิ่นเหม็นคุ้งน่าสะอิดสะเอียน จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ พวกแกต้องโดนอย่างนั้นจึงจะสาสมแก่ใจ”

150

“เท่านั้นยังไม่พอ แกอาจจะป่วยเป็นไข้เลือดออก และโดนเบาหวาน ขั้นวิกฤติถล่ม

จนต้องตัดขาตัดแขนไปทีละข้างสองข้าง สุดท้ายแกจะเหลือแต่ตัว เหมือนท่อนไม้โด่เด่ที่ถูกเลาะกิ่งก้านออกหมด  แต่แกก็จะไม่ตาย  นั่งแหละเวรกรรมของแก  เนื้อตัวจะเต็มไปด้วยแผลเน่าเฟอะ ทุกรูขุมขนจะมีแต่เลือดและน้ำหนองไหลออกมาพร้อมกลิ่นเหม็นที่ต้องอวก  ดังนั้นจงรีบมาตกลงกับฉันเสียแต่โดยดี ก่อนที่จะสายเกินไป

อีกอย่างหนึ่ง ที่ฉันอยากจะบอกแก  เมื่อโลกนี้หมดอายุขัย ผู้คนจะล้มตายกันไปหมด  แต่แกก็จะยังคงเป็นผู้เดียวที่ไม่ตาย แกจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้  บนความมืดมิด เดินทางไปบนโลกนี้อย่างสิ้นหวังเดียวดาย” นางแต้มหัวเราะอย่างมีความสุข

“แต่…ฉันคิดอีกที ไม่เอาแล้วละ ฉันจะไม่สาปแช่งแกไม่ให้ตายหรอก ไม่ใช่กลัวว่าแกจะต้องทนทุกข์ทรมาน แต่ฉันคิดว่า แกอาจจะสาปแช่งฉันแบบนี้มาก่อนหน้านี้แล้วก็ได้  ถ้าเป็นเช่นนั้น คงจะน่าอเนจอนาถใจและสยดสยองอย่างที่สุด เพราะเมื่อโลกนี้หมดอายุไขลง แทนที่จะเหลือแต่แกอยู่คนเดียวเดียวดาย ฉันก็จะอยู่ที่นั่นด้วย และเมื่อต้องอยู่กันสองต่อสอง  ฉันไม่อยากคิดเลยเถิดไป  ถ้าฉันเกิดรักแกขึ้นมาฉันจะทำอย่างไร  ฉันไม่คิดแล้ว เลิกคิดแล้ว  ฉันไม่เอาแล้ว ไม่เอ้าไม่เอา.

…….

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *