เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน นิทานโกหก (ไอ้..ตัวแสบ)

evils

จิปาถะ

เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน นิทานโกหก (ไอ้..ตัวแสบ)

2

ปีศาจขโมยเวลานั้นจะแอบซ่อนอยู่ในร่างกายและวิญญาณของมนุษย์ทุกคน  และคอยหาโอกาสฉกชวยขโมยเวลาของร่างกายอยู่เสมอ ดังนั้นร่างกายจะมีเวลาอยู่ในโลกนี้ได้นานมากน้อยแค่ไหน  ก็อยู่ที่วิญญาณและร่างกาย จะร่วมมือกัน สนับสนุนส่งเสริมให้ระมัดระวัง รู้จักดูแลรักษาร่างกาย ให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง โดยการออกกำลังกายอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหว ไม่หยุดนิ่ง  “ดั่งภาษิตในคัมภีร์ I Ching ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่กล่าวถึงภาวะการเปลี่ยนแปลงไม่รู้สิ้นของสรรพสิ่งได้กล่าวว่า สารธารแห่งธรรมชาติ การเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงมิหยุดยั้ง มนุษย์ก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องออกกำลังกายเคลื่อนไหวเพื่อความแข็งแกร่ง อย่างมิว่างเว้น”(ชมรมฯ.2526.14)

ดังนั้น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้ครบหมู่ พักผ่อนหลับนอนอย่างเพียงพอ ร่างกายก็จะแข็งแรงอยู่ได้นาน แต่ถ้าไม่รู้จักดูแลรักษาร่างกาย ไม่ยอมออกกำลังกาย  กินอาหารไม่ครบหมู่และไม่เป็นเวลา อีกทั้งยังดื่มเครื่องดองของเมา ถึงเวลานอนไม่ได้นอน นั่งจุ่มหัวเมาแอ๋ สะเงาะสะแงะอยู่แถวร้านข้าวต้น จนดึกดื่นเที่ยงคืนบางครั้งจนถึงสว่าง โดยหารู้ไม่ว่าที่โต๊ะถัดไป  มีปีศาจขโมยเวลานั่งอยู่และกำลังหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก  รอเวลาที่จะเอาเวลาของทุกคนกลับคืนไปยังวิหารทองคำ….น่าสยดสยองจริงๆ

นิทานยังเล่าต่อไปอีกว่า ปีศาจขโมยเวลานั้น จะใช้กลวิธีอื่นๆ เช่น การซ่อนมาในรูปแบบของเพื่อนรักเพื่อนใคร่ หลอกให้เราไปช่วยทำงานไกลๆ  ทั้งๆที่เมื่อเกษียณอายุราชการแล้วเราควรจะพักผ่อนอยู่กับครอบครัวที่บ้าน  ปีศาจขโมยเวลาจะ ร่วมมือกับเพื่อนเรา  โดยใช้วิธีการต่างๆนาๆหลอกล่อ เช่น ใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานและค่าตอบแทนเป็นเงินเป็นทองมาล่อ เราก็เลยลืมนึกไปว่าสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้นั้น ไม่ใช่เราไม่เคยมี  เราเคยมีเคยได้อยู่แล้ว ส่วนเงินทองก็มีอยู่เยอะแยะใช้ไม่หมดอยู่แล้ว  ฉะนั้นเวลาที่ควรจะได้พักผ่อนสบายๆ จึงถูกปีศาจขโมยเอาไป เพราะมันหวังเพียงว่าเราจะได้เหน็ดเหนื่อย อ่อนกำลังลง เวลาของเราจะได้หมดไวๆ  ซึ่งถ้าเราหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ เราก็เท่ากับหลงกล  แบบเดี่ยวกับการวิ่งผลัด เมื่อคนที่หนึ่งส่งไม้ให้คนที่สองแล้ว เขาก็จะได้หยุดพักอย่างสบาย ในขณะที่คนรับไม้ต่อก็จะบ้าวิ่งต่อไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต  จากข้อเปรียบเทียบนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับกรณีที่กล่าวมา คือ เมื่อเราตกลงว่าจะร่วมทำงานกับเพื่อนแล้ว  เพื่อนเราก็จะสบายหมดภาระ  ส่วนเราก็รับภาระต่อ ต้องทำงานและต้องคิดต้องทำอะไรมากมายสารพัด เพื่อให้คุ้มกับสิ่งที่เขาให้  เวลาไปทำงานก็ต้องขับรถที่ไกลแสนไกล เทียวไล้เทียวขื่อ บ้าบอคอแตก และที่น่าเป็นห่วงก็คือ ขณะที่เราขับรถไกลๆอยู่นั้น ปีศาจขโมยเวลาก็จะคอยสาปแช่งเพื่อให้เรา “พลาด” เช่น บางครั้งเรารู้สึกง่วง อยากจะหยุดพักในปั้ม หลับสักงีบแล้วค่อยขับต่อ ปีศาจขโมยเวลาก็จะยุว่า “อย่าเพิ่งพัก” ขับไปอีกนิดหนึ่งเถอะ เดี๋ยวก็จะถึงแล้ว  ถ้าเราเชื่อตามเล่ห์เหลี่ยมของมันเราก็ตกเป็นเหยื่อ  ในนิทานยังเล่าต่อไปอีกว่า มีคนหนึ่งไปทำงานที่ประเทศกัมพูชาตั้งแต่ก่อนเกษียณอายุราชการ และก็ตะลอนไปตะลอนมามากกว่า 15 ปีแล้ว ยังไม่ยอมเลิก ทิ้งครอบครัวไปอย่างนั้นแหละ ใจร้ายจริงๆ

นอกจากนั้นยังมีเล่ห์เหลี่ยมของปีศาจขโมยเวลาอีกมากมายก่ายก่อง ซึ่งคงมีประสบการณ์ในเรื่องนี้กันอยู่บ้างแล้ว ที่ยกมาก็เพื่อจะบอกว่า เจ้าปีศาจขโมยเวลานั้น มันคือ“ไอ้ตัวแสบ”

(โปรดรออ่านตอนต่อไป)

ชมรมพุทธศิลปศึกษาและประเพณี ม. เชียงใหม่.(2552).ไท้เก็ก (ไท้ชีฉวน).(2)เชียงใหม่.สำนักพิมพ์สุขภาพ.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *