เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตำนานเทพ ไวกิ้ง 2

oodins

จิปาถะ

เรื่องสั้น  หัวใจเปื้อนชอล์ก ตำนานเทพ ไวกิ้ง 2

201

“แล้วอย่างไรต่อไปอีก” คุณชวด เริ่มสนใจ

“เมื่อฝ่ายเทพได้โอดินมาเป็นประมุข ทำให้การต่อสู้แหลมคมยิ่งขึ้น  ในที่สุดฝ่ายอสูรก็พ่ายแพ้ไป โอดินได้สังหารหัวหน้าอสูร การตายของหัวหน้าอสูรนั้นทำให้เกิดสิ่งต่างๆขึ้นมากมาย ดังนี้

ร่างของอสูรที่กระเด็นตกลงไปในหุบเหว  กลายเป็น จักรวาล

เนื้อหนังมังสาของอสูร กลายเป็นแดนมนุษย์ กระดูกกลายเป็นป่าเขา ฟันกลายเป็นหิน และเลือดกลายเป็นทะเล

สุดขอบโค้งของทะเล กลายเป็นแดนอสูร ซึ่งเต็มไปด้วยภูเขาสูงชัน อากาศหนาวเย็นยะเยือก  อสูรและอสุรีเพียงคู่เดียวที่เหลือรอดจากการสู้รบได้พากันหลบหนีไปอยู่ในแดนอสูรและมีลูกหลานสืบต่อมาอีกเป็นจำนวนมาก

จากนั้นโอดินได้ขว้างสมองของอสูรออกไปกลายเป็นปุยเมฆแผ่กระจายไปทั่ว จุดคบเพลิงขว้างข้ามท้องฟ้ากลายเป็นหมู่ดาว วางคบเพลิงไว้บนราชรถทองคำ กลายเป็นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ทำให้เกิดแสงสว่างในแดนมนุษย์  แต่ทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ไม่อาจอยู่นิ่งได้ เพราะถูกหมาป่าของพวกอสูรรังควาน ต้องคอยหลบหลีกทำให้มีกลางวันและกลางคืน

202

เมื่อสร้างแดนมนุษย์เสร็จแล้ว โอดินมองลงไปยังหุบเหว เขาเห็นหนอนคลานกันยั้วเยี้ยบนซากศพของอสูรที่ตาย กลุ่มหนอนเหล่านี้มีทั้งหนอนดีและหนอนร้าย โอดินเสกกลุ่มหนอนดีให้เป็น “หมู่คนแคระละอองแสง” (ในที่นี้คนแคระหมายถึงพวก เอลฟ์ ) พวกนี้อาศัยอยู่ตามป่า ระหว่างแดนมนุษย์กับแดนสวรรค์ ส่วนกลุ่มหนอนร้าย เสกให้กลายเป็น “หมู่คนแคระดักดาน” อาศัยอยู่ในถ้ำ ไม่กล้าออกมาเห็นดวงตะวัน เพราะจะกลายเป็นหิน

วันหนึ่ง โอดินเดินไปตามชายหาดกับพระอนุชาของพระองค์ ณ ชายหาดพระองค์พบขอนไม้สองขอน จึงเสกให้เป็นมนุษย์คู่หนึ่ง และมอบชีวิตและวิญญาณให้ ส่วนอนุชาของเทพโอดิน ได้มอบความอบอุ่นและความรู้สึกสัมผัสให้ ส่วนอนุชาอีกพระองค์หนึ่งได้มอบใบหน้าและภาษาพูดให้  มนุษย์คู่แรกในตำนานของพวกนอร์สจึงถือกำเนิดมาตั้งแต่บัดนั้น”  เล่ามาถึงตรงนี้นางแต้มก็หยุด

203

“หยุดทำไมละ คุณแต้ม กำลังสนุกเลยทีเดียว เล่าต่อซิ”  คุณชวดรบเร้า

“ฉันฝันถึงตรงนี้ก็ตื่นก่อน  แต่ในฝันฉันเห็นท่านโอดินมีบริวารเป็นนกคู่หนึ่ง  ชื่อ “ความคิด” ตัวหนึ่ง และ “ความจำ” ตัวหนึ่ง ท่านเป็นประมุขเทพที่มีความเฉลียวฉลาดมาก มีสติปัญญาเป็นเลิศ สามารถล่วงรู้ได้ทั้งอดีตและอนาคต แต้มอยากเป็นแบบท่าน โอดิน จริงๆ จะได้ทำอะไรได้ตามใจชอบมากขึ้นกว่านี้”

“ฉันจะบอกให้เอาไหม  ว่าทำไม เทพเจ้าโอดินถึงเฉลียวฉลาด”

“เธอรู้ได้อย่างไร  เธอเป็นแค่หนูท้องขาวเท่านั้นเอง” นางแต้มพูดสบประมาท

คุณชวดสะอึกนิดหนึ่ง อุทานว่า “ปากหมา” ออกมาดังๆ และตำหนินางแต้มว่า “นิสัยแย่ๆของเธอ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากนั้น ข้อนี้เป็นข้อหนึ่งในหลายสิบข้อของเธอที่แย่  คือ ชอบดูถูกคนอื่น  เหตุนี้เองที่ทำให้ไม่ค่อยมีใครคบเธอได้นาน  และฉันอยากจะบอกเธอว่า ฉันเป็นหนูนักษัตรนะและไม่ใช่หนูทดลอง รู้ไว้เสียด้วย” คุณชวดยักไหล่

“ขอโทษจ้ะ คุณชวด ต่อไปฉันจะพยายามปรับตัว” นางแต้มแสร้งทำเป็นยอมทำตาละห้อย

……….

จูนินยะ.(2554).ตามรอยเท้ายักษ์.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ปราชญ์.

นฤมล เทพไชย.(2551).ตำนานเทพไวกิ้ง.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อมรินทร์.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *