9 เมษายน 2559
จิปาถะ
เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน วิบากกรรม
159
ปรากฏการณ์ใหม่ได้เกิดขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น คือ น้ำที่ส่งเข้ามาให้นางแต้มเต็มขันจนเกือบล้น ข้าวเหนียวมีมากกว่าเดิมสองเท่า หมูปิ้งเพิ่มขึ้นจาก 1 ไม้ เป็น 2 ไม้ นี่มันเกิดปาฏิหาริย์อะไรขึ้นมานะ นางแต้มรู้สึกงง
หรือจะเป็นเพราะอานิสงค์ของการทำคุณงามความดีด้วยการให้ทานและรักษาศีลคือไม่ฆ่าสัตว์ “แต่ฉันก็เพิ่งทำนิดๆหน่อยๆเท่านั้น บางอย่างก็เพียงแต่คิดยังไม่ได้ทำเลย ทำไมถึงได้รับผลบุญรวดเร็วปานนี้ ฉันงงจริงๆ เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันไม่มีทางเชื่อเรื่องนี้ ..
ฉันว่า ไอ้พวกนั้นมันกลัวฉันจะตาย มันจึงให้อาหารฉันเพิ่มขึ้น มันคงต้องหวังประโยชน์อะไรจากฉันอย่างแน่นอน ไม่มีเสียละที่ใครจะยอมเสียประโยชน์โดยไม่หวังผลหรอก แต่มันต้องการอะไร ฉันยังคิดไม่ออกจริงๆ ค่อยๆดูกันไปก่อนก็แล้วกัน”
160
“ฉันคงจะคุ้นเคยกับความหิวโหยเสียแล้ว ดังนั้นอาหารที่ส่งเข้ามาจึงไม่ทำให้ฉันตาเหลือกตาลานเหมือนดังแต่ก่อน ฉันเดินช้าๆและนั่งลงใกล้ๆกับอาหารนั้น น้ำเต็มขันเลย มันมีความหมายกับฉันมากจริงๆ อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันมีความสุข ที่รู้ว่าฉันจะมีน้ำกินไปได้ตลอดวัน ฉันก้มดูหน้าตัวเองในน้ำที่ใสและนิ่ง ฉันถึงกับผงะหงายเมื่อเห็นหน้าตัวเอง ฉันหรือนี่ นี่หรือรองศาสตราจารย์ระดับ 9 หน้าที่หยาบกร้าน ช่างดูไม่ได้เอาเสียเลย ริ้วรอยเหี่ยวย่นปรากฏอยู่ค่อนข้างชัดเจน ริมฝีปากที่แตกแห้งเป็นสะเก็ดดูน่าเกลียดน่ากลัว ผิวที่แห้งเต็มไปด้วยกระและหยาบกร้านเพราะไม่เคยทาครีมรักษาผิวเป็นเวลานาน นางลูบแขนที่หยาบและขนที่กระด้างและยาวจนรู้สึกได้ว่า น่าจะถึงเวลาที่จะต้อง แว๊กซ์ขน เสียที
นางแต้มก้มลงดูหน้าตัวเองอีกครั้ง ใช่ มันเป็นเช่นนั้นเอง อายุหกสิบกว่าแล้ว จะให้พริ้งสวยสดงดงามเต่งตึงเหมือนกับวัยรุ่นได้อย่างไร จริงอยู่มันอาจจะเหี่ยวย่นเร็วไปกว่าปกตินิดหน่อย แต่ถึงอย่างไรมันก็ต้องมาถึงจุดนี้จนได้
161
ดูเหมือนว่าวันนี้ นอกจากน้ำ ข้าวเหนียว และหมูปิ้ง มีสิ่งของที่ส่งมาเพิ่มอีก 1 อย่าง ใส่อยู่ในถุงก๊อบแก๊บ นางแต้มคิดว่าคงจะเป็นพวกขนมนมเนย และนึกเลยเถิดไปถึง ช็อกโกแลต หรือไอศกรีม โน่น แต่เมื่อเปิดออกดูนางก็แทบจะขว้างทิ้ง มันเป็นสีเทียน 2 กล่องใหญ่ นางแต้มบ่น “แกไอ้พวกบ้าๆบอๆ แกส่งสีเทียนมาทำไมวะ แกน่าจะเข้าใจเรื่อง time and space หรือกาลเทศะบ้าง หิวจะตาย…ห่..อยู่แล้ว แทนที่แกจะส่งขนมนมเนยมาให้ เสือกส่งสีเทียนมาให้ 2 กล่องใหญ่ แกจะบ้าหรืออย่างไร ปัญญาอ่อนจริงๆไอ้พวกสมองไดโนเสาร์ รู้สึกอารมณ์ของนางจะเดือด
นางแต้มเขวี้ยงถุงที่ใส่กล่องสีเทียนไปอีกฟากหนึ่งของห้อง หันมาสนใจอาหารที่ได้มา รำพึงในใจว่า “ฉันจะต้องกินข้าวเหนียวหมูปิ้งไปอีกนานสักเท่าไรนะ ฉันคงตายแน่ ร่างกายฉันจะต้องชำรุดทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็วเพราะขาดสารอาหาร แต่นั่นแหละ เมื่อมีแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้งก็ต้องกินแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้งนี่แหละ ข้าวเหนียวหมูปิ้งคือฉัน ฉันคือข้าวเหนียวหมูปิ้ง เราเป็นหนึ่งเดียวกัน สายตานางแต้มเป็นประกายสดใส ยกไหล่ขึ้นนิดหนึ่ง เมื่อคิดได้ว่าแมลงสาบไต่ออกจากยุ้งข้าวได้อย่างไร “ฮ่า ฮ่า ฮ่า” นางแต้มหัวเราะ “วันใดที่ฉันสามารถเป็นหนึ่งเดียวกับแมลงสาบ วันนั้นฉันก็จะไต่หนีเล็ดลอดออกไปจากที่นี่ได้อย่างง่ายดาย” จากนั้นความสนใจของนางกลับมาที่หมูปิ้ง นางหยิบหมูไม้แรกขึ้นมา ค่อยๆแบ่งส่วนของเนื้อติดมันวางไว้บนกระดาษหนังสือพิมพ์แอบไว้ข้างฝา มาซิมา มากินซะ เจ้าแมลงสาบ เพื่อนรัก
……………