เรื่องสั้น ซีซั่น 2 อย่าเอาไว้ 9   (ไม่มีใครสนใจ)

วันอังคารที่ 26  เมษายน 2565

เรื่องสั้น ซีซั่น 2 อย่าเอาไว้ 9   (ไม่มีใครสนใจ)

26

สิ่งหนึ่งที่ท่านผู้อ่านควรทราบก็คือ นางแต้ม ตัวละครของผม หรืออธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ นั้น นางเป็นคนผิดปกติ หรือเป็นคนพิการทางใจมาตั้งแต่เด็ก มีความเก็บกดสูงมาก เพราะนางมีพี่น้องหลายคน ที่สำคัญ นางไม่ใช่ลูกสาวคนโต และก็ไม่ใช่ลูกสาวคนเล็ก  จึงไม่ใช่ลูกคนโปรดของพ่อแม่ ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ถูกใจพ่อแม่สักอย่าง ทำให้พ่อแม่โกรธและดุด่าอยู่เสมอ  เป็นเหตุให้นางกลายเป็นคนโกรธง่าย โกรธแล้วไม่หาย แต่กลายเป็นอาฆาตแค้น  นอกจากนั้นพ่อแม่ยังชอบบงการให้นางทำโน่นทำนี่สารพัด เป็นเหตุให้นางกลายเป็นคนชอบบงการ และขยันขันแข็งมาก เพื่อเอาใจพ่อแม่ เท่านั้นยังไม่พอ พ่อแม่ยังเปรียบเทียบกับพี่น้องในลักษณะที่ตัวนางไม่ได้เรื่อง  เป็นปมให้นางอยากเป็นคนได้เรื่อง จึงพยายามแสวงหาเกียรติบัตรที่แสดงว่านางเป็นคนได้เรื่อง เป็นคนเก่ง เช่น เป็นบุคคลแห่งชาติ  เป็นบุคคลตัวอย่าง เป็นคนดีของแผ่นดิน เป็นต้น ส่วนที่นางโลภมากอยากได้ทุกอย่างนั้นเกิดจากตอนเป็นเด็กนางไม่เคยมีไม่เคยได้ และนี้คือตัวตนที่แท้จริงของนางที่ถูกเก็บซ่อนไว้

ดังนั้น ในขณะที่นางเป็นอาจารย์ธรรมดา พฤติกรรมที่น่ารังเกียจ ถูกแอบซ่อนไว้ภายในอย่างมิดชิด จะมีโผล่ออกมาบ้าง กับทั้งเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน แต่ไม่ค่อยมีผลอะไร  เช่น นางโกรธเพื่อนที่ขัดใจนาง แต่เพื่อนไม่ใส่ใจ เดินหนีไปก็จบ  สรุปว่า นางเป็นคนน่ารังเกียจ นางจึงไม่ค่อยมีเพื่อน  จนเมื่อนาง ได้เป็นอธิการบดี นั่นแหละ นางมีอำนาจ  ตัวตนที่แท้จริง คือความเลวร้ายของนาง ที่ซ่อนอยู่ภายในก็ปรากฏออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งอันตรายมาก

ดังบทกวีของ เอมิลี่ ดิกคิดสัน Emily Dickinson. (10 ธค. 2373- 15 พค.2429 ) กวีชาวอเมริกัน บทหนึ่งว่า

“ไม่จำเป็นต้องเป็นบ้าน  หรือห้องที่ทำให้คนกลัว สมองของเรามีทางเดินที่ซับซ้อนมากมาย เหนือกว่าสถานที่ซับซ้อนใดๆในโลก ตัวตนที่อยู่ลึกลงไป ตัวตนเราที่ถูกซ่อนไว้ คือ สิ่งที่เราควรหวาดกลัวที่สุด  จนฆาตกรที่แอบซ่อนอยู่ในบ้านนั้น ดูไม่น่ากลัวอีกต่อไป”

จะเห็นได้ว่า เอมิลี ดิกคิดสัน เน้นถึง “ตัวตนที่ซ่อนไว้ถายในนั้น คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด น่ากลัวยิ่งกว่าฆาตกรเสียอีก”

และบัดนี้ตัวตนที่แท้จริง หรือความเลวร้ายทั้งหลายของนางแต้มที่น่ากลัวกว่าฆาตกร  ได้ออกมาอาละวาดทำร้ายทั้งนักศึกษา, บุคลากรที่เป็นฝ่ายตรงข้าม และทำร้ายมหาวิทยาลัยอันเป็นที่รักของชาวสารขันธ์อย่างจงใจและต่อหน้าต่อตา ซึ่งถือว่าแย่มากๆ  แต่นั่นแหละ ที่แย่มากๆไปกว่านั้นอีก   ก็คือ “ไม่มีใครสนใจ”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *