เรื่องสั้นหัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ท่องยมโลก (เพื่อน 8)

a dance
จิปาถะ
เรื่องสั้นหัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ท่องยมโลก (เพื่อน 8)
15
“สำหรับอีก 2 ข้อ ที่เหลือ คือ การฝึกให้มีอำนาจบังคับ และการฝึกใจให้มีสมาธิ ตู้อบจะอธิบายการฝึกให้มีอำนาจบังคับเท่านั้น ส่วนการฝึกให้ใจมีสมาธินั้น มีหลายวิธีมากมาย ตู้อบจะ assign ให้เธอไปค้นคว้าเอง”
“ดีจ้ะ ถือเป็นการเรียนรู้การสืบค้นไปด้วย” นางแต้มพูดเอาใจตู้อบ
“ดีมาก ดีมาก” ตู้อบชม ยิ้มน้อยๆเพราะรู้ว่านางแต้มพูดเอาใจ และอธิบายต่อไปว่า “การฝึกให้มีอำนาจบังคับ คือการฝึกให้ใจเป็นนายอยู่เสมอ เช่น เมื่อต้องการสิ่งใดก็ต้องคิดบังคับเอาให้ได้ เหมือนกับเราเป็นนายมีอำนาจเหนือสิ่งนั้น”
“แบบนี้แต้มถนัดอยู่แล้วจ้ะ” นางแต้มดีใจที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ตู้อบอธิบายมา
“การฝึกให้มีอำนาจบังคับที่ว่ามา เป็นเรื่องทางไสยศาสตร์ ที่ต้องการฝึกจิตให้มีอำนาจบังคับผู้อื่น ซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่ต้องการบอกเธอ แต่ที่ตู้อบต้องการบอกเธอก็คือ การฝึกบังคับตัวเอง”
“เขาเป็นอย่างไร” นางแต้มถาม
ตู้อบ ชะงักกับคำถามของนางแต้มนิดหนึ่ง ก่อนที่จะอธิบายว่า “เธอต้องพูดว่ามันเป็นอย่างไร ไม่ใช่เขาเป็นอย่างไร”
“ก็ไหนตู้อบบอกว่าให้ใช้คำว่า “เขา” ดีกว่าใช้คำว่า “มัน”ไงล่ะ” นางแต้มย้อนตู้อบ
“เธอต้องดูบริบทหรือข้อความที่เกี่ยวเนื่องกันด้วย” ตู้อบถอนใจ
16
“สำหรับการฝึกบังคับตนเอง จะต้องแบ่งตัวเองออกเป็นสองภาค คือ ภาคที่เป็นกาย และภาคที่เป็นใจ และต้องถือว่าใจเป็นเจ้านาย ส่วนกายเป็นคนรับใช้ ซึ่งต้องระมัดระวังเพราะกายกับใจมักจะเออออห่อหมกไปด้วยกันเสมอๆ ดังนั้นต้องฝึกบังคับกายให้อยู่ใต้อำนาจของใจให้ได้ เช่น ขณะที่เราทำงานมาตลอดทั้งวัน ร่างกายอ่อนเพลียต้องการพักผ่อน แต่งานนั้นยังไม่เสร็จและต้องทำให้เสร็จทันตามกำหนด ใจก็ต้องบังคับกายว่าอย่าเพิ่งนอน ต้องทำงานให้เสร็จก่อนถึงจะนอน หรือ ร่างกายต้องการอาหารที่ใจเห็นว่าไม่มีประโยชน์และเป็นอันตราย ใจก็ต้องบังคับกายไม่ให้กินอาหารนั้น ถ้าทำได้เช่นนี้ได้ย่อมทำให้มีกำลังใจเข้มแข็ง มีอำนาจบังคับอยู่เสมอ ใครที่สามารถบังคับตนเองอยู่เสมอได้ คนๆนั้นอาจมีอำนาจบังคับผู้อื่นได้ แต่อย่างไรก็ต้องสายกลางไว้นะ” ตู้อบอธิบายยาวเหยียด
“อันนี้แต้มชอบมากเลย แต้มชอบบังคับคนอื่น แต่ไม่ชอบบังคับตนเอง”
“แต่ถ้าเราบังคับตนเองได้แล้ว ก็เชื่อว่าเราจะสามารถทำให้คนอื่นทำตามที่เราต้องการได้โดยไม่จำเป็นต้องบังคับ”
……….