จิปาถะ
ปีนต้นไม้จับปลา
มีผู้แสดงความคิดเห็นใน จิปาถะ เรื่อง อาจต้องตบกะโหลก ที่โพสต์เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557
ท่านหนึ่งกล่าวว่า “ตบไปตบมาก็งดงามเอง”
ส่วนอีกท่านหนึ่งกล่าวว่า “ก็พยายามตบตีแต่พองาม เหมือนหม้อไหก่อนขึ้นรูปก็ต้องทุบตีดินก่อน เมื่อดินนิ่มเหนียว ค่อยประคองให้เป็นรูป แต่ถ้าขึ้นรูปยังดูบิดเบี้ยว ก็ตบกะโหลก ทิ้งมันไป หมดเรื่องกัน”
แต่เพื่อนของผมอีกคนหนึ่งบอกว่า ท่านจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ การที่จะเปลี่ยนคนพาลให้กลับมาเป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมนั้นไม่สำเร็จหรอก เหมือนคนจีนที่ชอบเปรียบเปรยความปรารถนาหรือการกระทำใดๆที่ไม่มีทางประสบผลสำเร็จว่าเหมือน“ปีนต้นไม้จับปลา”
สำนวนจีน“ปีนต้นไม้จับปลา”เกิดขึ้นในสมัยจั้นกั๋ว ฉีซวนอ๋อง เจ้าเมืองฉี ปรารถนาที่จะเป็นใหญ่ในแผ่นดินจีนทั้งหมด ระดมกำลังหวังพิชิตเมืองต่างๆให้อยู่ในอำนาจ
แต่ปราชญ์เมิ่งจื่อ ไม่เห็นด้วย ท่านเสนอแนะว่า การที่จะเอาชนะเมืองอื่นให้ได้นั้นต้องใช้ระบบคุณธรรม ซึ่งจะต้องทำให้เกิดขึ้นในเมืองของตนก่อน คือ ทำให้ประชนชนอยู่ดีกินดีมีความสุข เมื่อปฏิบัติเช่นนี้ย่อมชนะใจประชาชนทั้งเมืองฉีเองและเมืองอื่นๆไปด้วย ส่วนการใช้กำลัง หรือใช้อำนาจบาตรใหญ่ นั้น ไม่มีทางที่จะบรรลุเป้าหมายได้
ปราชญ์เมิ่งจื่อ ถาม ฉีซวนอ๋อง ว่า ที่ท่านจะใช้ทหารเสี่ยงอันตรายโจมตีเมืองอื่นนั้น ท่านมีเหตุผลอะไร
ฉีซวนอ๋องไม่ตอบ เมิ่งจื่อ จึงถามต่อว่า ท่านขาดแคลนอาหารอันโอชะหรือ เสื้อผ้าอาภรณ์มีไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หรือเพราะดนตรีไพเราะมีไม่พอให้หูฟังหรือย่างไร ถึงได้ยอมเสี่ยงอันตรายให้ไพร่พลบุกเข้าไปโจมตีเมืองอื่น ซึ่งจะทำให้ประชาชนต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก และที่ท่านต้องการทำเช่นนั้น ก็เพราะท่านต้องการจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินจีนทั้งหมด ซึ่งข้าพเจ้าจะบอกท่านตรงๆว่า ความปรารถนาเช่นนั้นเปรียบประดุจปีนต้นไม้จับปลา ไม่มีทางสำเร็จหรอก
ส่วนนางแต้มของผมเท่าที่สังเกตดูก็มีพฤติกรรมในทำนองเดียวกับ ฉีซวนอ๋อง คือต้องการมีอำนาจเหนือผู้คนในองค์กร เพื่อจะได้สามารถกำหนดโน่นนี่ได้ตามใจชอบ เมื่อสามารถควบคุมได้แล้ว การสนองความโลภของตนก็จะประสบผลสำเร็จได้โดยง่าย ไม่มีใครกล้าขัดขวาง แต่ผมก็จะบอกเธอตรงๆว่า ความปรารถนาเช่นนั้นเปรียบประดุจปีนต้นไม้จับปลา ไม่มีทางสำเร็จหรอก
………
อ้างอิง
ส.สุวรรณ.(2541).สำนวนจีน.พิมพ์ครั้งที่ 3 .กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์พิราบ.