วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น โจรปล้นเงินเดือน (ยังไม่หายอยากเป็น)
8
มีนา จัน บอกว่า “จากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ให้คนที่มีอายุเกิน 60 ปี สามารถเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยของรัฐได้ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์นั้น เป็นผลให้ทั้งหมารับใช้หน้ามึนและกองเชียร์ทั้งหลายพากันดีอกดีใจเป็นที่เอิกเกริก แต่นางแต้มกลับเฉยๆ เพราะนางรู้อยู่แก่ใจว่า นางเป็นอธิการบดีไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากนางมีคุณสมบัติเพียงประการเดียว คือ อายุเกิน 60 ปี แต่ขาดคุณสมบัติของการเป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมอย่างสิ้นเชิง เพราะในขณะที่นางแอบอ้างดำรงตำแหน่งรักษาการอธิการบดีนั้น ได้กระทำผิดกฏหมายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีคดีอยู่ทั้งที่ศาลอาญาคดีทุจริต ศาลอาญาและศาลปกครอง โดยเฉพาะคดีที่เมืองประทายสมันต์ ที่นางพยายามเคลียร เพราะเป็นปราการสำคัญที่ทำให้นางมีโอกาสได้รับโปรดเกล้าฯ แต่ไม่สำเร็จ เพราะคูกรณีพูดได้คำเดียว ให้ไปคุยกับทนาย เป็นเหตุให้นางใช้สัญชาตญาณเดิมที่ชั่วร้ายฟาดหัวฟาดหางกับโจทย์คู่กรณีเป็นพัลวัน เช่น หาวิธีการที่จะไล่ออกเนื่องจากขาดราชการ เป็นต้น แล้วคนแบบนี้ใครทำเรื่องขอโปรดเกล้าฯขึ้นไปก็จะพลอยซวยไปด้วย นอกจากนั้นยังมีเรื่องอยู่ในศาลอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก”
เรื่องนี้สันทัดกรณี แสดงความเห็นมาว่า
“การรักษาการอธิการบดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่ วันที่ 16 กันยายน 2560 โดยที่ สภามหาวิทยาลัย ไม่ได้แต่งตั้ง ผู้ใด ให้ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการอธิการบดี แต่อย่างใด
การร่วมมือกับนายกสภามหาวิทยาลัย สารขัณฑ์ ในการ ออกคำสั่ง สภามหาลัย อันเป็นเท็จ ในปี 2562
การออกคำสั่ง สภามหาวิทยาลัย สารขัณฑ์ ในปี 2563 เพื่อให้มีผล ย้อนหลัง ไปจนถึง วันที่ 18 มีนาคม 2560 ซึ่งไม่สามารถกระทำได้ เพราะ ขัดกับหลักกฎหมาย แค่นี้ก็จะเป็น อุปสรรค ในการ ที่จะเสนอ แต่งตั้งเป็นอธิการบดี ถึงแม้ว่า ศาลปกครองสูงสุด จะตัดสินชี้ขาดว่า ผู้ที่อายุเกิน 60 ปีสามารถดำรงตำแหน่ง อธิการบดีได้ก็ตาม
ดังนั้น การที่ สภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ จะต้อง ประชุมกันอีกครั้งหนึ่งก็เพื่อหาเหตุผล ในการเสนอ ต่อกระทรวงอุดมศึกษา ถ้าหาก นางแต้มไม่รักษาการ อธิการบดี ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2560 เป็นต้นมา สภามหาวิทยาลัย ก็ไม่จำเป็น ที่จะต้องประชุมอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ อ้างคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ก็สามารถ รายงานให้กระทรวงอุดมศึกษา ดำเนินการได้ทันที แสดงให้เห็นว่า สภามหาวิทยาลัย สารขัณฑ์ เกิดความกลัว เพราะได้กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง จนทำอะไรกันไม่ถูกแล้ว และเป็นการยอมรับว่า การปฏิบัติหน้าที่ของนางแต้ม ในการรักษาการอธิการบดี นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายจริง จึงต้องประชุม กันเพื่อ รับรอง กันอีกครั้ง
“อาชญากรย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ”โรเบิร์ต ไอสไตน์ ไม่ได้กล่าวไว้”
“และสภาฯกับนางแต้มจะติดคุก โรเบิร์ต ไอสไตน์ ก็มิได้กล่าวไว้เช่นกัน.” 555
…..