จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (ขอเวลาครับ)

วันเสาร์ที่  25 มีนาคม พ.ศ. 2566

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (ขอเวลาครับ)

ขอนำเรื่องเก่าเมื่อ 8 ปีที่แล้วมาโพสต์ครับ เพื่อยืนยันว่า จิปาถะ เรื่องสั้น ไม่ได้หนีหายไปไหน แต่คงต้องปรับให้เหมาะสมไปตามสถานการณ์ ครับผม

“ไม่ต้องมาคุยกัน”โพสต์ครั้งแรกเมื่อ 23  มีนาคม  2558

คนบางคนหลงตัวเอง มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่รับผิดชอบเพียงเล็กน้อย  แต่ทำตัวใหญ่โตรโหฐาน ไม่รู้เต่ารู้แลน ไม่ดูตาม้าตาเรือ เรื่องเล็กๆจึงทำท่ากลายเป็นเรื่องใหญ่  ก็เรื่องความโง่เง่าเต่าตุ่นของทั้งเจ้าหน้าที่และคนโพสต์  ฮือฮากันอยู่ในสังคมออนไลน์ขณะนี้  คือ กรณี “ศ.ระพี” ถูก จนท.สถานทูตเยอรมันหยามเกียรติ ขณะขอวีซ่าเพื่อไปรับไวโอลินถวาย “ในหลวง”  ปรากฏข้อมูลในโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Kloz Hirunburana” ของนายกลศ หิรัญบูรณะ เลขาฯและพยาบาลส่วนตัว ศาสตราจารย์ ระพี สาคริกโดยมีหัวเรื่องว่า “ไม่ให้เกียรติกันอย่างนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกัน” ดูรายละเอียดที่เขาแชร์กันได้ทั่วไปครับ

ส่วนผมไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ(แสดงไปนิดหนึ่งแล้ว)  เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์  ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป  มาฟังนิทานอุปมุปไมยจีน เรื่อง สารถีผู้ทะนงดีกว่า  มีเนื้อหาทำนองเดียวกัน เรื่องมีอยู่ว่า

นายเสี่ยงฮ้อเป็นสารถีของเอี้ยนจือ อัครมหาเสนาบดีแห่งรัฐฉี จีนโบราณ วันหนึ่งท่านเสนาบดีนั่งรถม้าออกไปธุระ โดยมีเสี่ยงฮ้อเป็นสารถี บังเอิญขับรถผ่านบ้านของเขา  ภรรยาเขามองผ่านทางช่องประตู เห็นสามีของนางคือ เสี่ยงฮ้อ นั่งหน้าบานอยู่ใต้ร่มคันใหญ่บนรถม้า มือถือแส้กวัดแกว่งไปมามีท่าทางเย่อหยิ่งทรนงยิ่งนัก

เย็นวันนั้น เมื่อเสี่ยงฮ้อกลับถึงบ้าน  ภรรยาเขาก็ขอหย่าทันที เสี่ยงฮ้อตกใจมากเพราะไม่ทราบสาเหตุ เขาจึงถามภรรยาว่า ที่ต้องการหย่ากับเขานั้นเพราะเหตุใด

ภรรยาตอบว่า เอี้ยนจือ เป็นถึงอัครมหาเสนาบดีแห่งรัฐฉี   มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งแผ่นดิน วันนี้ฉันเห็นท่านนั่งอยู่ในรถ ท่านนั่งก้มหน้าสงบนิ่ง ท่าทางถ่อมตัวเหลือเกิน  แต่พี่ล่ะ เป็นเพียงคนขับรถ แต่กลับนั่งชูคอหน้าบาน นึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่เสียเหลือเกินแล้ว ด้วยเหตุนี้แหละ ฉันจึงไม่ต้องการอยู่ร่วมกับคนแบบนี้อีกต่อไป

เท่านั้นแหละ เสี่ยงฮ้อก็ถึงบางอ้อ ตั้งแต่นั้นมาเขาได้เปลี่ยนนิสัยใจคอและท่าทางเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เย่อหยิ่งจองหองเหมือนแต่ก่อน  ความอ่อนน้อมถ่อมตนของเขาทำให้ได้รับความนิยมรักใคร ได้รับโอกาสทำงานที่ดีและก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ผมยากให้เจ้าหน้าที่สถานทูตเยอรมัน อ่านเรื่องสารถีผู้ทะนง  จะได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เย่อหยิ่งจองหองพองขน “เปลี่ยนนิสัยซะ ก่อนที่ภรรยาจะขอหย่า”  คนบ้าอะไรก็ไม่รู้  พูดกับท่าน ศ. ระพี สาคริก ว่า “นี่อายุขนาดนี้แล้วจะไปทำไม? ห่วยแตกจริงๆ

อ้างอิง  เว่ย จินจือ.(ม.ป.ป.)นิทานอุปมาอุปไมยจีน.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์หยินหยาง.

ศ.ระพี” ถูก จนท.สถานทูตเยอรมันหยามเกียรติ ขณะขอวีซ่าเพื่อไปรับไวโอลินถวาย “ในหลวง” ASTVผู้จัดการออนไลน์ (23 มีค.58)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *