จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (คม หักศอก) ฉายซ้ำ

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2566

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (คม หักศอก) ฉายซ้ำ โพสต์ครั้งแรกเมื่อ 13  พฤศจิกายน  2561

44

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาในเบื้องต้น  อธิการฯให้การว่า “ท่านจำอะไรไม่ได้เลย จำได้เพียงว่า นั่งคุยอยู่กับ คม หักศอก และก็ lose ไป รู้สึกตัวอีกครั้ง ก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาและเนื้อตัวเปื้อนเปอะไปด้วยเลือด เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านตอบได้อย่างเดียวว่า “จำอะไรไม่ได้”

ส่วนหน้าห้องอธิการฯ ให้การว่า “เมื่อคม หักศอก ออกมาบอกว่าให้เข้าไปดูอธิการฯ เธอก็จะเปิดประตูเข้าไป  แต่ปรากฏว่าประตูล็อก จึงเรียกยามให้มาช่วยกันพังประตูเข้าไป สิ่งที่เห็นคือ อธิการฯฟุบอยู่ที่โต๊ะ และมีผู้ชายนอนจมกองเลือดอยู่ จึงโทรไปแจ้งตำรวจ”

ส่วนผมให้การว่า “ผมออกจากห้องอธิการฯ  ตอนเกือบบ่ายโมง เมื่อเห็นอธิการฯฟุบหลับที่โต๊ะ และบอกให้หน้าห้องเข้าไปดู เพิ่งมารู้ตอนเย็นว่ามีการฆาตกรรมในห้องอธิการฯ”

จากนั้น มีนา จัน ก็ทำเรื่องประกันตัวผมออกมา ด้วยหลักทรัพย์ที่เตรียมมาพร้อม

เมื่อเจ้าหน้าที่สถานพูตเดินทางกลับไปแล้ว มีนา จัน โทรไปให้เพื่อนที่เป็นทนายความมารับพาไปหาทนายของอธิการฯที่โทรมาให้ไปร่วมปรึกษาหาแนวทางการแก้คดี

ผมพูดอะไรไม่ออก เหนื่อยและมึนไปหมด จับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก มีการฆาตกรรมในห้องอธิการฯได้อย่างไร  ทำไมเสื้ออธิการจึงเต็มไปด้วยคราบเลือด หรือมีคนบุกรุกเข้าไปหลังจากที่ผมออกมา  ชายคนนั้นมาจากไหน ถูกแทงตายได้อย่างไร  งง สับสนไปหมด  ซับซ้อนซ่อนเงื่อยจริงๆ ผมเอามือกุมขมับ

ที่ห้องประชุมของมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ พวกเราที่เกี่ยวข้องกับคดีทุกคน มีอธิการฯ ทนายความ หน้าห้องอธิการฯ ผม  มีนา จัน และเพื่อนทนาย  ปรากฏว่าไม่ค่อยมีใครพูดอะไร เพราะทุกคนไม่มีข้อมูล และงุนงงไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลักฐานที่เจ้าหน้าแจ้งมานั้นยังไม่ครบถ้วน ก็ต้องรอ

ทนายความของอธิการฯจึงสุปว่า ที่ขอให้ทุกคนมาพบกันในค่ำวันนี้ก็เพื่อให้พวกเราช่วยกันคิด ช่วยกันหาทางแก้ไข  เพราะทุกคนตกอยู่ในเรืออันตรายลำเดียวกัน และไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ส่วนอธิการฯนั่งทำตาหรอกแหลก เธอเสีย self ไปแล้ว

ทันได้นั้น ทุกคนตื่นตะหนก เมื่อมีเสียงกระแทกจะพังประตูเข้ามา เสียงปืนดังขึ้น 1 ชุด  ประตูห้องก็เปิดออก ชายในชุดดำสวมหัวโม่ง ใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงไปทั่วห้องอย่างไม่เลี้ยง ทุกคนนอนราบลงกับพื้นตามสัญชาตญาณ ขณะจะนอนราบหัวผมกระแทกเข้ากับขาโต๊ะห้องประชุม สติผมวูบไป

ผมรู้สึกตัวอีกครั้ง เมื่อมีมือจับไหลผมเขย่าเบาๆ และมีเสียง “ท่านคะ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้วค่ะ” ผมลืมตา ไม่เห็นใครเลย ทุกคนไปกันหมดแล้ว  ผมใช้มือคลำที่หัว เจ็บและแฉะๆ อุ้ย ! มีเลือดด้วย ผมสบถในใจ “ไอ้บ้าเอ้ย”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *