จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (อำนาจเถื่อนอยู่ไม่นาน)

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2565

8

เราลองมาพิจารณาการโรมรันพันตูหรือการต่อสู้กันนัวเนีย ระหว่างอีแต้ม กับหญิงกล้า ซึ่งไม่รู้ว่าจะจบอย่างไรและเมื่อไร เราจะเห็นได้ว่า “คู่นี้ไม่สูสีกันเลย” เพราะคนหนึ่งคือนางแต้ม มีตำแหน่งเป็นถึงอธิการบดี  มหาลัยสารขัณฑ์ ซึ่งมีพร้อมทุกอย่าง มีอำนาจบารมี มีเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งเดือนละเหยียบแสนบาท ลูกผัวก็ไม่มีให้ต้องห่วงหน้าห่วงหลัง สู้สบายๆ อีกทั้งยังสามารถใช้เงินทองและเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเครื่องช่วยในการต่อสู้ ในทุกรูปแบบ เช่น จ้างทนายประจำสำหรับทำคดีโดยเฉพาะ ใช้รถของทางราชการในการเดินทางไปสู้คดี ฯลฯ ถือว่าเหนือกว่าคู่ต่อสู้มาก ส่วนอีกคนหนึ่งคือ หญิงกล้า ซึ่งเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย เงินเดือนก็นิดเดียว รู้สึกว่าจะไม่ถึง 3 หมื่นด้วยซ้ำ อีกทั้งมีลูกผัวให้ต้องเป็นห่วง ที่หนักคือค่าทนายและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แถมสุขภาพไม่สู้ดี เพราะเครียด เนื่องจากนางแต้มหาเรื่องให้เครียดทุกวัน ทำให้สู้ลำบาก พะวักพะวน ห่วงหน้าห่วงหลัง นอกจากนั้นยังถูกอีแต้มใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม ปลดออกจากราชการอีกด้วย กะจะเอามันให้ตาย! ดูอีเหี้ยมันทำ

นี่ถ้าเป็นกีฬาชกมวย ถือว่ามวยคู่นี้ ต่อยผิดรุ่น ผิดเวที เช่น เอาไมก์ไทสัน มาต่อย กับโผน กิ่งเพชร บ้าตายห่า! หรือ ผิดเวที คือ เอานางแต้มซึ่งถือว่าเป็นมวยระดับทำเงินของสนามมวยเวทีราชดำเนินหรือสนามมวยเวทีลุมพีนี ส่วนหญิงกล้าเป็นมวยวัด โนเนม รองเท้าที่ใส่ยังต้องยืมเขามาเลย ถือว่าเป็นมวยคู่ที่แย่ที่สุด และเราเสือกเผลอซื้อตั๋วเข้าไปดูมวยคู่นี้เลย “เซ็งตายห่า”

วันนี้ Ni Pon หรือ ผศ.ดร.นิพนธ์ ทวีกาญจน์ กัลยาณมิตร แสดงความเห็นมาว่า “ผู้บริหารระบบ ก็มีการสร้างคอกไว้เพื่อควบคุมวัวควาย ที่ถูกควบคุมก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่คอยสอพลอเพื่อการอยู่รอดปลอดภัย ส่วนที่ไม่ได้เป็นวัวเป็นควาย ก็มักแหกคอกออกมา ก็ไม่ถูกควบคุม ฟ้าจะผ่าก็หาร่มเงาหลบไว้ ธรณีจะสูบ ก็อย่าไปยืนที่พื้นดิน สู้ด้วยความสงบ อำนาจเถื่อนอยู่ไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวพวกมันก็ตายหมด รวมเราด้วย ……ความจริงไม่อยากยกตัวอย่างว่าเป็นวัวควายหรอก เดี๋ยวนี้ วัวควายมันสูงค่า ราคาตัวหนึ่งๆ แพงกว่าไอ้พวกสร้างคอกอีก!”

ส่วน ผศ.ดร. La Ph ชมมาว่า “ชอบภาพประกอบมากค่ะ เพราะสื่อถึงพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของนางแต้มได้ชัดแจ้งแดงแจ๋จริงๆ…”

และ ดช. สมชาย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรงโคกเพชร อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ บอกว่า “ดินจ้องจะสูบ ฟ้าก็จะผ่า สงสัยร่างแหลกสลายกลายเป็นซากย่อยไม่มีชิ้นดีครับ”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *