จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (มะเร็งร้าย)

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (มะเร็งร้าย)

เรื่องการใช้วุฒิ ป. เอก ที่ กพ.ไม่รับรอง แต่อธิการบดี และสภามหาวิทยาลัยรับรอง หรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่เข้าใจ ช่วยเหลือกันไป เป็นเหมือนมะเร็งร้ายที่บ่อนทำลายสถาบันอุดมศึกษาของชาติ ที่เลวร้ายที่สุด เพราะเท่ากับเอาโจรมาสอนนักศึกษา ซึ่งจะพากันเป็นโจรไปหมด และเราขอปฏิญาณว่าจะไม่หยุดพูดเรื่องนี้ ถ้าหากยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือตรวจรักษาโรคร้ายนี้ให้หมดไป วันนี้มี 2 กรณี คือ ม.สารขัณฑ์ และ ม.ลิกกอร์ ช่วยกันรับความสะเทือนใจนี้ด้วยกันนะครับผม

หญิงกล้า บอกว่า “ผู้ใหญ่ ๆ ของ ม. สารขัณฑ์ ในอดีตไม่สนใจการตรวจสอบวุฒิการศึกษา เห็นว่ามีใบปริญญาจบการศึกษาจากต่างประเทศก็รับสมัคร ไม่สนใจว่าวุฒิการศึกษานั้น ถูกรับรองจาก สำนักงาน ก.พ. หรือไม่ ไอ้อัปรีซ่า (คณบดีวิทยาการ ม. สารขัณฑ์) ดร.กำมะลอ ก็เหมือนกัน สมัยเข้ามาทำงาน ใช้วุฒิปริญญาโท พอทำงานไปเรียนต่อปริญญาเอก แต่ยังทำหน้าที่สอนปกติ (ตรวจสอบตารางสอนย้อนหลัง) วันดีคืนดี จบการศึกษาเอาวุฒิการศึกษาปริญญาเอกจาก Doctor of Philosophy (Economics) University of Madras, India มายื่น เรียกตนเอง ดร.อัปรีซ่า ข้อสงสัยเต็มหัว….จะเรียกได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้ส่งวุฒิไปขอการรับรองจากสำนักงาน ก.พ. ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ 2551 มาตรา 8 (10) และ 13 (11) เขียนไว้………….กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อรับรองคุณวุฒิของผู้ได้รับปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือคุณวุฒิอย่างอื่น เพื่อประโยชน์ในการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือน และการกำหนดอัตราเงินเดือนหรือค่าตอบแทน รวมทั้งระดับตำแหน่งและประเภทตำแหน่งสำหรับคุณวุฒิดังกล่าว…..เสียงกระซิบจากคนใกล้ชิดไอ้อัปรีซ่าบอกว่า….เคยยื่นนะแต่ สกอ. ไม่รับรอง…..เมื่อไม่รับรอง ยังหน้าด้านใช้วุฒิปลอมแสวงหาผลประโยชน์มีความผิดเต็ม ๆ ใช้วุฒิปลอมเข้าดำรงตำแหน่ง คณบดีวิทยาการ ผิดเต็ม ๆ ใช้วุฒิปลอมสอน วิจัย ผิดเต็ม นางแต้มต้องทำยังไง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 47 ผู้บังคับบัญชาผู้ใดเมื่อปรากฏว่ามีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการพลเรือนใน

สถาบันอุดมศึกษาผู้ใดกระทำผิดวินัยละเลยไม่ดำเนินการทางวินัยตามหมวด 6 ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัย (พนักงานมหาวิทยาลัยก็ใช้ พรบ.นี้ บทเฉพาะกาลเขียนไว้) เพราะ…..ไอ้อัปรีซ่า (คณบดีวิทยาการ ม. สารขัณฑ์) ดร.กำมะลอ มีความผิดตาม มาตรา 7 (10) เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการหรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ (ใช้วุฒิปลอมบรรจุรับอัตราเงินเดือน ปริญญาเอก) ซึ่งมาตรา 57 ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดมีกรณีดังต่อไปนี้ ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 28 หรือสภาสถาบันอุดมศึกษาสั่งให้ออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเหตุทดแทน (3) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 7 (ก) (1) หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 7 (ข) (1) (2) (5) หรือ (6) และ (4) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 7 (ก) (3) หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 7 (ข) (4)……….ชัดเจนขนาดก็เชื่อถือนางแต้มคงไม่ทำอะไร ก็หาทางช่วยเหลือต่อไป……เพราะนี้คือ บริษัทสารขัณฑ์ จำกัด บริหารงานโดย แต้มศรี แดกทุกอย่างทุกอย่าง

https://learningportal.ocsc.go.th/accre…/edu/international

ส่วน ท่าน P N โยนคำถาม เพื่อหาคำตอบ และจะมีใครสนใจบ้างไหมหนอ? ท่าน P N ถามว่า “รบกวนสอบถามครับ กรณีนี้เหมือนกับราชภัฎนครศรีฯ ที่คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ฯ คนปัจจุบัน ใช้วุฒิปริญญาเอกที่ไม่ได้รับรองหรือเรียกว่าวุฒิปลอมหรือเถื่อนบรรจุเป็นอาจารย์พนักงานมหาลัย ซึ่ง กระทรวง อว. แจ้งให้มหาลัยทราบแล้ว ตั้งแต่ปี 63 และยังมีคนร้องเรียนเรื่องนี้ไปที่มหาลัยนานแล้ว แต่มหาลัยกลับนิ่งเฉย นอกจากนั้นสภามหาลัยก็รู้แล้วแต่ยังกลับแต่งตั้งเป็นคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ฯ และคณบดีคนดังกล่าว ตอนนี้ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ผู้ที่ร้องเรียนอยู่ตลอดเวลา ผมถามว่ากรณีนี้หากมหาลัยและสภาฯไม่ดำเนินการใดๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลและความเสียหายต่อราชการ กรณีเช่นนี้เราสามารถมีสิทธิดำเนินคดีกับผู้บริหารและสภามหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชได้หรือไม่และใครมีสิทธิดำเนินคดีได้บ้าง เพราะเป็นความเสียหายต่อรัฐและราชการ เนื่องจากบุคคลนี้ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและได้รับเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน”

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *