วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565
จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (กฏมีไว้ให้แหก)
10
ความจริงเรื่องการใช้อาวุธปืนกราดยิงเหยื่อนั้น เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ถ้าไม่นับเหตุกราดยิงที่โคราช เมื่อปี 63 แล้ว ในปีนี้ 2565 ได้เกิดเหตุกราดยิงติดต่อกันถึง 2 ครั้ง ในช่าวเวลาที่ห่างกันเพียง 20 วันเท่านั้นเอง คือ เกิดเหตุกราดยิงที่ กรมยุทธศึกษาทหารบก เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 65 และเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 65 เกิดเหตุกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ. หนองบัวลำภู แต่ครั้งล่าสุดนี้ สะเทือนขวัญมาก เพราะเหยื่อเป็นเด็กเล็ก อายุเพียง 3- 5 ปี เท่านั้นเอง
ถามว่า เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะหยุดมันได้อย่างไร ซึ่งท่าน Paramatta Nilsang บอกว่า “ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เรื่องแบบนี้ ไม่มีทางจบสิ้นครับ ตราบใดที่ความยุติธรรมมันไม่ได้รับโดยเสมอกัน ในเมื่อไม่ได้รับความยุติธรรมตามกฎหมาย ความยุติธรรมตามธรรมชาติก็ย่อมตามมา แต่ผู้กระทำไม่น่าไปลงมือกับเด็กบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาเลย กลายเป็นสัตว์ป่านรกไป ถ้ามาปรึกษาผมซักนิด จะให้มาจัดการสภา ม.ลิกอร์ ที่ชั่วช้า เลวทราม 20 กว่าคน รับรองคนทั้งโลก สรรเสริญเยินยอ พร้อมที่ยกย่องให้เป็น “ฮีโร่” ของวงการอุดมศึกษาไทย”
และ ผศ.ดร.La Ph เสริมว่า “และพ่วงเอาคนใจดำที่ ม.สารขัณฑ์ไปด้วยก็ดี แต่อย่าให้ถึงตายเลย เอาแค่ให้สำนึกผิดและเลิกก่อกรรมทำเข็ญคนอื่นๆก็พอ”
แต่ ท่าน Paramatta Nilsang ไม่ยอม บอกว่า “ ไม่ได้ครับ พวกนี้ต้องพรากออกจากสังคมตลอดกาล เพราะสันดานชั่วมันฝังอยู่ในสายเลือด คำว่าสำนึกผิด ไม่มีอยู่ในสมอง ต้องกำจัดเลยครับ แผ่นดินไทยจะได้สูงขึัน เพราะคนพวกนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน “หนักแผ่นดิน”
ส่วนคม หักศอก “คิดว่า สังคมเราได้เปลี่ยนจากสังคมเอื้อเฟิ้อเผื่อแผ่แบ่งปัน มาสู่สังคมการแย่งชิงที่มือใครยาวสาวได้สาวเอา มีคนเห็นแก่ตัวและหน้าด้านเยอะมาก ที่สำคัญเจ้าหน้าที่รัฐมักจะปล่อยปะละเลย มีหน้าที่แต่ไม่ทำ เพราะไม่ได้ประโยชน์ อ้างว่าไม่ใช้หน้าที่ของตน การละเมิดกฏหมายจึงกลายเป็นเรื่องปกติ เช่น ขับขี่มอเตอร์ไซด์ ย้อนศร เป็นต้น จนเกิด สโลแกนที่ว่า “กฏมีไว้ให้แหก” เอวัง
..