จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (น่าสะพรึงกลัว)

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (น่าสะพรึงกลัว)

7

กรณีที่อีแต้ม ฟ้องหมิ่นประมาทอาจารย์และพนักงาน 7 ท่าน ที่ศาลอาญาสารคามบุรี ศาลชั้นต้นยกฟ้อง อีแต้มอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง นางแต้มขอฏีกา ศาลฏีกาไม่รับ เป็นอันว่าคดีถึงที่สุดแล้ว ถ้าเป็นคนปกติทั่วไป คงปวดหัวเป็นบ้าตายไปแล้ว เตรียมตัวได้เลย “กูติดคุกแน่นนอน” แต่พอดีอีแต้มมันบ้าอยู่แล้ว จึงไม่รู้เต่ารู้แลน ละไม่สะทกสะท้านอะไรเลย  ยังคงยิ้นระรื่นชื่นใจ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะมันไม่รู้ว่า ติดคุกเป็นอย่างไร 555 อีแต้มนี่มันบ้าจริงๆ

ฉะนั้น ขอทำนายไว้ได้เลยว่า ถ้ามันติดคุกมันก็จะไปเป็นบ้าอยู่ในคุก แต่ถ้าไม่ติดเพราะศาลเห็นว่ามันบ้า  ก็จะปล่อยตัวให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าระทึกและน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะวันดีคืนดี อีแตมมันอาจจะหนีออกจากบ้าน เดินแก้ผ้าโทงๆ มาร้องรำทำเพลงอยู่หน้า ม. สารขัณฑ์ “ม.ของกู กูเป็นอธิการ” มันจะน่าสมเพชและอุจาดยิ่งกว่ามันติดคุกเสียอีก

ทีนี้มาดูเรื่องคนกล้าที่นครศรีฯ ที่มีคนมายืนถือป้ายประท้วงอยู่คนเดียว  ที่ป้ายมีข้อความว่า “ม.ราชภัฎนครศรีฯ ไม่เอาอาจารย์ ผู้บริหารที่เป็นโจร ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่ง Paramatta Nilsang ออกมายืนยันว่า “ของจริงครับ คนถือป้ายประท้วง แจ้งมาว่าท้าให้ฟ้องเลยครับ จะได้ไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันในศาลยุติธรรม หลักฐานเอกสารทุกอย่างจัดให้ครบ เพื่อประโยชน์ของสาธารณะและทางราชการ ถ้าไม่จริงยอมติดคุก แต่ถ้าจริงคุกต้องไม่มีไว้ขังหมาแน่นอน

และ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล บอกว่า “คนดีมีเยอะ คนกล้าก็มีเยอะ แต่ระบบอุปถัมภ์ การทุจริต การคอรัปชั่น การฉ้อราษฎร์บังหลวง เงินภาษีของผู้มีรายได้ สังเวยคนชั่วทั้งแผ่นดิน ปราบยาก เพราะคนปราบ ก็พวกเดียวกัน”

“มีข่าวว่าตอนนี้อีแต้มโตวขะแมร์ (ไปเขมร)ไปสะเดราะห์ หรือไปหาทางหลบหนีก็ไม่รู้ เกินจะคาดเดาได้

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *