วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565
จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (กรรมไม่มีพวก)
6
วันนี้ ผศ.ดร. ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล บอกว่า “ใช่ค่ะ มีตัวอย่างแล้ว แต่ข้องใจ แล้วช่วงหลังจากที่ ถูกปลด แต่บริหารงานไปแล้ว ต้องถูกเรียกชดใช้อะไรบ้าง ที่น่าจะเป็น คือ เงินประจำตำแหน่ง ต้องคืนแน่นอน”
ที่อาจารย์ชลิดา ว่ามา น่าจะหมายถึงกรณี มทร.ตะวันออก ซึ่งมีคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่แทนสภาฯ ตามคำสั่ง คสช.อยู่แล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง “เงินหลวงตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้”อยู่แล้ว
มาดูกรณีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ซึ่งน่าสนใจมากกว่าเยอะ เพราะตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2560 ถึงต้นเดือนกันยายน 2564 นั้น นางแต้มเป็นรักษาการอธิการบดีเถื่อนอย่างแน่นอน เนื่องจากไม่มีคำสั่งสภาฯแต่งตั้งที่ถูกต้อง ตามกฏหมาย ส่วนคำสั่งทั้งสองฉบับที่สภาฯแต่งตั้งนางแต้มนั้นเป็นคำสั่งเท็จ คำสั่งปี 62 เป็นเท็จ เพราะนายกสภาฯออกโดยพลการ เพราะไม่มีวาระการประชุมสภาฯ คำสั่งปี 63 แก้ไขคำสั่งปี 62 ออกย้อนหลังไปถึงปี 60 ก็น่าจะเป็นเท็จเช่นกัน ทำเป็นเด็กเล่นขายของไปได้ ออกคำสั่งย้อนหลังกันเป็นปีเลย เรื่องพวกนี้ท่านต้องไปให้การในศาลอาญาคดีทุจริต นะครับ ท่าน ทอ ผู้ เฒ่า ทั้งหลาย รวมทั้งท่านสมโม และคุณปอสิต ที่ ม. กำแพงมณีด้วย
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญมาก คือ นางแต้มคิดว่า เมื่อตัวเองได้รับการโปรดเกล้าฯแล้ว จะลบล้างความผิดที่แอบอ้างเป็นรักษาการอธิการบดี และออกคำสั่งทางปกครองที่ตนเองไม่มีอำนาจ ให้พ้นตัวไปได้ ช่างน่าหัวเราะจริงๆ คิดได้ไง ทำผิดก็ต้องรับโทษ และอย่าลืมนะครับ เรื่องโปรดเกล้าฯนี่ก็ยังมีปัญหาอยู่ “พูดได้อย่างไรว่าตรวจสอบแล้ว ไม่มีปัญหา ทั้งๆที่มีคดีอยู่เป็นกะตัก หมิ่นเหม่มาก”
คอยดูนะครับ วันหนึ่งนางแต้มจะต้องถูกปลด แล้วจะต้องชดใช้อะไรกันบ้าง พวกเราก็รักษาสุขภาพให้ดีแล้วกัน เพื่ออยู่ดูต่อไป แต่เงินประจำตำแหน่งนั้นถูกเรียกคืนแน่นอน รายการนี้รวมไปถึงพวกรองอธิการเถื่อนและผู้ช่วยอธิการเถื่อนทั้งหลายด้วย ใช้หนี้กันหูตูบ เวรกรรม!” (ตรงนี้คุณปอสิตและพวกรองๆ ระวังด้วย)
มีเสียงแย้งว่า “พวกเขาไม่กลัวหรอก เพราะพวกเขามีเส้น มีสาย มีพวกมาก ทุกอย่างจะผ่านฉลุย”
“ก็ช่างพวกเขาเถอะ แต่ที่ทำอะไรกับใครไว้นั้น เป็นเรื่องของ “กรรม” และจำไว้ กรรมไม่มีเส้นและไม่มีพวก เป็นอกาลิโก”
..