วันพฤหัสบดีที่  16  กันยายน  พ.ศ. 2564 

จิปาถะ เรื่องสั้น อีแสบ (มันจะพินาศไป)

16

คม หักศอก บอกมีนา จัน ว่า เมื่อวานตอนเย็น  ได้แสดงความยินดีไปกับข่าวนางแต้ม ที่ชุบตัวใหม่จากรักษาการอธิการบดีเถื่อน เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ต่อไปอีก   เหมือนวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง ตอนถอดหัวเงาะ งามแงะ เป็นสังข์ทอง เนื้อตัวเหลืออร่ามไปหมด แต่กลิ่นตุๆยังอยู่  ไปตกหลุมทองที่ไหนมาก็ไม่รู้  กว่าจะโผล่ขึ้นมาได้หมดไปหลายตังค์

ส่วน จิปาถะ เรื่องสั้น ก็เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ จาก อีเถื่อน เป็นอีแสบ เพราะแสบจริงๆ ฉะนั้น เรื่องนี้ยังไม่จบ แต่ก็คงไม่นาน เพราะนางมีคดีอยู่เพียบ เหมือนเณรแอ  มีคดีเป็นร้อย รอดหมด แต่ก็ติดคุกจนได้ เพราะมีอยู่ 1 คดีที่ไม่รอด  ฉะนั้น ดูต่อไปครับ  สนุกดี

เหมือนเวลาดูหนัง จะสนุก ตื่นเต้น เร้าใจก็ตอนที่ทั้งพระเอกและผู้ร้ายยังต่อสู้กัน มีการหักเหลี่ยมหักคม ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ แต่ถ้าเมื่อไรผู้ร้ายแพ้ หนังก็จะจบ คนดูก็หมดสนุก  อย่างเช่น คดี ตำรวจ โจ้ สนุกอยู่แค่ 2-3 วันแรก  ติดตามอ่านกันตลอด ว่าจับได้หรือยัง  แต่เมื่อ โจ้ มอบตัวเรียบร้อย ก็ไม่มีใครสนใจข่าวนี้อีกเลย

เช่นเดียวกับ นางแต้ม รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ที่พันตูกับหญิงผู้กล้า ครูบาอาจารย์และนักศึกษา ก็ผลัดกันรุกผลัดกันรับ ตื่นเต้นสนุกสนาน เร้าใจ  จิปาถะ ก็มีเรื่องให้เขียนเยอะ มันมาก ทั้งคนเขียนคนอ่าน และต่อไปน่าจะระทึกกว่าที่ผ่านมา  เพราะนางจะเป็นรักษาการอิการบดีต่อไปอีก  ประสบการณ์ในการฟาดฟันคู่ต่อสู้ก็จะแหลมคมยิ่งขึ้น แต่นั่นแหละ นางพลาดที่เปิดศึกหลายด้าน โดยเฉพาะกับนักศึกษา นศ.ซัดมันตายแน่

ขอจบด้วยการให้กำลังใจโดยอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย โปรดช่วยคุ้มครองป้องกันภัย  พรรคพวกของเรา ไม่ว่าจะเป็นหญิงผู้กล้า ครูบาอาจารย์ และนักศึกษา ที่ยังมีคดีความที่นางแต้มฟ้องหมิ่นประมาทค้างคาอยู่ ขอให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป  ถึงแม้จะยาวนานก็ตาม เพราะทุกเรื่องต้องมีตอนจบ ผมขอรับรองตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า “ธรรมย่อมชนะอธรรม” ส่วนคนพาลก็จะพินาศไปในที่สุด

สุภาษิต : “คนชั่งเตลิดหนี แม้ไม่มีใครไล่ตาม”

…