วันจันทร์ที่  21  กุมภาพันธ์  2565

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรต หกห้า (รู้ไว้ด้วย)

21

วันนี้ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล แสดงความเห็นว่า  “รางวัลอะไรเยอะแยะ ตาแป๊ะไก่ มีเรื่องเล่า คณบดีท่านหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ท่านมีงานสอน งานบรรยาย โครงการต่างๆ กิจกรรมมากมาย ได้รางวัลแทบทุกอาทิตย์ ช่างน่าอัศจรรย์ เมื่อหมดวาระ ไม่มีตำแหน่งใดๆ แต่งานก็ยังดำเนินไปตามปกติ แต่ไม่เคยได้รับรางวัลใดๆอีกเลยจนเกษียณ

สรุปได้ว่า รางวัลจะให้เฉพาะคนที่มีตำแหน่ง ส่งผลงานไปขอ  ถ้าแน่จริง สถาบันการให้รางวัลต่างๆ ต้องเสาะหาคนดี คนเก่ง ในสาขานั้นๆว่าได้ทำจริง เก่งจริง ดีจริงสิ นี่ให้คนที่เขียนขอไป

โม้เยินยอตัวเอง ไม่รู้จริงหรือเท็จ เขียนเว่อๆไปใครจะมาตรวจ แค่อ่านตามเอกสาร ก็ตาเหลือกแล้ว

รางวัลส่วนใหญ่ของสถาบันต่างๆ 99% ของปลอม ไม่สนใจหรอก คนบ้า

อาจารย์ที่เคยเป็นที่ปรึกษาสมัยปริญญาโท เป็นคนเก่ง รอบรู้ หลายเรื่อง สามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวเลขต่างๆที่เกิดขึ้นในตำราความรู้มาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์เชิงประจักษ์ เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ฝรั่งที่ให้รางวัลยกย่องคนเก่งในโลก 2,000 คน ของเคมบริดจ์

ก็มาบอกอาจารย์ให้เขียนขอรางวัล เขาจะให้อาจารย์ ท่านเก่งจริง แต่เป็นคนดีมีชื่อเสียงในประเทศไทยระดับประเทศ ท่านบอกว่าไม่อยากได้หรอก ฝรั่งก็มาเมืองไทยบ่อย พอดีมาเจอลูกสาวอาจารย์

ที่จบ Post Dr. ของจริง เพราะจบ Prep.School จากวิทยาลัยของอเมริกา ก่อนจะเข้าเรียนที่ Princeton ถ้าไม่รู้จัก ก็ที่เดียวกับบิลเกต ซึ่งเรียนแค่ปีสองและรู้ว่าเก่งกว่าคนสอนเลยลาออกมาคิด Operational System Windows นั่นแหละ

สมัยไป visit มหาวิทยาลัยที่เมกา 4 เดือน ต้นปี 31 ข่าวทีวีบอกว่า ให้จับตาดูนักศึกษาคนนี้ดีๆ มีโอกาสเป็นผู้ร่ำรวยอันดับ 1 ของ ฟอร์บ พอกลับจากเมกามาได้ 7  ปี

เขาก็ได้เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ตามฟอร์บจัดให้ต่อเนืองนานหลายปี ก่อนที่จะถูกเจ้าของวอลล์มาร์ทแย่งไป

อีกคนก็ มาร์ค ซัคเคอร์เบอร์ค ที่สร้าง Face Book สมัยเรียนกับเพื่อนสองคนในมหาวิทยาลัย เจตนาเพื่อทำหนังสือรวมรุ่นนักศึกษาก่อนจบนั่นแหละ

เฮ้อ เหนื่อย ทำไมไปคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้ก็ไม่รู้ เลยต้องอธิบายเสียยืดยาว

เหนื่อย ในที่สุด อาจารย์ก็ได้ บันทึกเป็นคนเก่ง 1/2,000 คนของโลก ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว ตอนเจอหน้า อาจารย์ถ่ายสำเนา ใบประกาศเกียรติคุณ มาให้ 1 แผ่น ถามว่า อะไร พออ่านจบ เลยถามว่า อ้าวทำไมได้มาล่ะ ไหนว่าไม่อยากได้ ขี้เกียจเขียนว่าตัวเองเก่งอย่างไร เหมือนคนบ้าไง อาจารย์บอกว่า

ลูกสาวเจอฝรั่งที่เป็น 1 ในคณะกรรมการที่ให้รางวัล บอกให้เขียนให้หน่อย ให้เขียนบรรยายตาม

ฟอร์มเขาแล้วส่งไปให้คณะกรรมการ (ตอนนี้ ใบนี้อยู่ไหนหาไม่เจอแล้ว 555)

คนเก่ง ไม่ต้องประกาศ ใครสัมผัสด้วยก็รู้ ถ้าเป็นคนมีสติปัญญานะ คนเก่งจริง ดีจริงๆ ต้องให้คนในองค์กรเดียวกัน คนในบริบทเดียวกัน คนในสังคมเดียวกัน ยกย่อง สรรเสริญ นั่นแหละรางวัลชีวิต ของจริง ไปดูเมืองสวิส เวลาคนตายนะ เขาจะไม่กล่าวถึงสมบัติที่ผู้ตายมี เขาจะไม่กล่าวถึงความสัมพันธ์ใดๆ เขาจะพูดแต่คุณงามความดีที่คนตายทำไว้ให้ชุมชน ให้สังคม ให้โลกเชิงประจักษ์

ในขณะยังมีชีวิตอยู่ แค่นั้นจริงๆ รู้ไว้ด้วย

…..