วันอังคารที่ 15 มีนาคม 2565
จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรต หกห้า (ไปไม่รอด)
15
เมื่อหย่อนก้นลงนั่งหน้าจอ เตรียมเขียนถึงนางแต้ม ตัวละครของผม หรืออธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ รวมทั้งลิ่วล้อทั้งหลายแล้ว ก็ต้องถอนใจ เวรกรรมแท้ๆ เพราะได้ตรวจสอบดวงชะตาของทุกคนจากทุกสำนักแล้ว ยืนยันเป็นภาษาลาวเสียงเดียวกันว่า “บ่สามาดยู่ลอดได้”
ซึ่งสอดคล้องกับ Tally Ho ที่บอกว่าว่า “นี่เลย ต้องยกโป้ให้เลย โลภอันดับต้นๆ + โง่อันดับต้นๆ เป็นคนดีดีไม่ชอบ บอกแล้วบ่ฟัง!!!เก่งนัก ดังแน่ๆๆ ซือแป๋ทำนายไว้แล้ว…
และยิ่งมั่นใจมากขึ้นไปอีก เมื่อผู้สันทัดกรณี ยืนยันมาอีกครั้งว่า “นางแต้มติดคุกแน่นอน ขอให้ใจเย็นๆสักนิดครับ ไม่เพียงแต่นางแต้มเท่านั้น ที่เป็นรักษาการอธิการบดีเถื่อน แต่รวมทั้งลิ่วล้อคือ รองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดีก็เถื่อนตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2560 เป็นต้นมา ก็ร่วมติดคุกด้วย ซึ่งใครก็ได้สามารถไปร้อง ปปช.เพื่อเอาผิดกับนายกและกรรมการสภา ม.สารขัณฑ์ (ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ) และรักษาการอธิการบดีเถื่อน พร้อมทั้ง รองฯและผู้ช่วยอธิการบดีเถื่อน (เพราะสภาไม่ได้มีมติแต่งตั้งและไม่มีคำสั่งแต่งตั้งจากสภาฯ) รวมทั้งการเบิกเงินค่าบริหารฯในส่วนที่เกิน 180 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งแสดงให้ปรากฏแล้วว่านางแต้มและคณะผู้บริหาร ฯการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว (เบิกเงิน 1 เดือน ก็มีความผิด 1 กระทง)ขอให้ดูกรณีของ ม.อุบลราชธานี เป็นตัวอย่าง
ศาลฎีกา ยืนลงโทษคุก 9 ปี 28 ด. ‘’อดีตอธิการบดี ม.อุบลฯ คดีทอดกฐิน-ให้ทุนมิชอบ https://www.isranews.org/article/isranews-news/106753-invess09-45-
ส่วน ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล บอกว่า “คนเราเวลามีกิเลส หลงแล้ว ถอนตัวยาก คิดว่า ทำดีแล้ว ถูกต้องแล้ว ก็ลำบากนะ ที่จะให้เข้าใจ
และ ผศ.ดร.La Ph แสดงความเห็นว่า “จะว่าไปแล้วก็น่าสงสารบรรดาลิ่วล้อที่ไม่รู้เรื่องกฎหมายนี้ ทั้งเสียประวัติและอับอายกันทั้งครอบครัว ส่วนคนที่รู้กฎหมายแต่ยังดันทุรังกระทำผิดเสมือนท้าทายและลองดี ก็สมควรได้รับโทษตามกฎหมายและเวรกรรมตามสนองทั้งครอบครัวเช่นกัน
…