วันเสาร์ที่ 11 กันยายน  พ.ศ. 2564

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน  (ติดคุกแน่นอน 100%)

11

อิทธิฤทธิของวันที่ 9 เดือน 9 ยังแผลงฤทธิ์ไปทั่ว แม้แต่ที่ทำเนียบรัฐบาลก็ยังไม่เว้น  กระเด็นกระดอนกันเป็นแถวๆครับ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ครับ

ที่นี้ก็หันกลับมาที่มหาวิทยาลัยกำแพงมณี ที่มีการไปยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6นั้น จึงฝากเตือนมาที่ท่านสมโม สักนิด เพราะท่านรับเต็มๆอยู่แล้ว หนีไม่ออก แต่ถ้าท่านจะแก้ไขสถานะการณ์โดยการทบทวนมติการสรรหาอธิการบดีเสียใหม่ โดยให้มีการยกเลิกมติและเริ่มการสรรหาใหม่และยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งรักษาการอธิการบดีและแต่งตั้งผู้รักษาการอธิการบดีคนใหม่ แต่ถ้าท่านนายกสภาและกรรมการสภาไม่ทบทวนมติเพราะกลัวเสียฟอร์มก็มีวิธีที่ดีและสะดวกโดยที่สภาไม่รู้สึกเสียฟอร์มก็คือให้ใครสักคนไปบอกคุณปอรสิต สละสิทธิจากผู้ที่ได้รับการสรรหาเป็นอธิการบดีและลาออกจากการเป็นรักษาการอธิการบดี ทุกอย่างก็เรียบร้อยสะดวกโยธิน แต่การที่จะให้คุณปอรสิตสละสิทธินั้นคิดว่าอยากมากเพราะนางเริ่มเสพติดอำนาจแล้ว ต่อให้เอาช้างมาฉุดนางก็ไม่ยอมลง  นางยอมให้กรรมการทุกคนติดคุกดีกว่าแน่นอนเพราะนางไม่ได้เดือดร้อนหรือติดคุกด้วย (ดูตัวอย่าง อจ.ที่ได้ลิ้มรสอำนาจ ทางการเมืองจนเจออาถรรพ์ 9/9)

ท่านสมโม ท่านยังมีเวลากลับตัวกลับใจที่สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ถ้าท่านรีบแก้ไขปัญหาที่ท่านก่อขึ้นมา ดีกว่ารอให้ศาลตัดสินซึ่งท่านไม่รอดคุกแน่นอน ดังคำพิพากษาของศาลฎีกา ซึ่งได้วางบรรทัดฐานไว้แล้ว ขอคัดบางตอนจากคำพิพากษาฎีกาที่ 5311/2563 วันที่ 28 เมษายน 2564 ตัดสินคดีที่จังหวัดอุดรธานี

“คดีมีปัญหา ที่จะต้องวินิจฉัย ในข้อสุดท้ายว่า  มีเหตุควรการรอการลงโทษ แก่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ถึงที่ 9 หรือไม่ เห็นว่า จำเลยที่ 1 เป็นประธาน อก.คศ. เขตพื้นที่ การประถมศึกษา อุดรธานี เขตที่ 1 ย่อมต้องมีหน้าที่โดยตรงในการควบคุมการประชุม ไม่ให้มีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด. จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 7 นอกจากจะเป็น อก.คศ. เขตพื้นที่การประถมศึกษา อุดรธานี เขต 1 แล้ว ยังเป็นคณะกรรมการ กลั่นกรองการย้าย ฯ ซึ่งทราบมูลเหตุที่เกิดขึ้น แต่ยังคงกระทำความผิด จึงไม่มีเหตุ ที่จะรอการลงโทษ”

สรุปได้ว่า ท่านสมโม และกรรมการสรรหา ฯติดคุก แน่นอน100%

….