จิปาถะ เรื่องสั้น (ด่าอย่างเข้าใจ)

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น (ด่าอย่างเข้าใจ)

9

“การด่าโดยที่ไม่รู้ความหมายที่แท้จริง อาจทำให้การด่านั้นขาดอรรถรสได้ เขาว่ากันอย่างนั้น เห็นด้วยครับ ฉะนั้น การที่จะบริภาษบำบัด หรือ ด่า นางแต้ม ตัวละครของผม อธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ รวมทั้งนายสุชี๋ นายกสภา,กรรมการสภามหาวิทยาลัยและลิ่วล้อหมานายทั้งหลายนั้น หากด่าด้วย “ตระกูลห่า” ก็เท่ากับด่าพวกเขาว่า “ไอ้พวกโรคระบาด” ไม่เจ็บปวดอะไร แต่ถ้าด่าด้วย “ตระกูลเหี้ย” ซึ่งพฤติกรรมของพวกเขาตรงกับสัตว์เลื้อนคลานที่มีชื่อว่า “เหี้ย” แล้ว มันได้อรรถรส อีกทั้ง ตรงตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย มันสะใจดี

ตัวเหี้ย มีรูปร่างหน้าเกลียดน่ากลัว แลบสิ้นสองแฉกอยู่ตลอดเวลาเหมือนงู ชอบกินซากสัตว์และของเน่าเหม็น พวกที่อาศัยอยู่ตามป่าช้า จะถูกใส่ความว่ากินซากศพด้วย เป็นสัตว์อัปมงคล คนโบราณเชื่อว่า ถ้าเหี้ยเข้าบ้านจะนำความชั่วร้าย ความอัปรีย์จัญไรมาให้ ถึงขนาดต้องทำบุญล้างซวยกันเลยทีเดียว ความจริงแล้ว สาเหตุที่เหี้ยเข้าบ้าน เพราะมันเข้าไปหาอาหาร ถ้าบ้านสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีเศษอาหาร ไม่สกปรกรกรุงรัง เหี้ยก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเข้าไป นอกจากเจ้าของบ้านถึงคราวซวยจริงๆ

คำถามมีว่า ทำไมพวกเหี้ย ถึงเข้ามาในมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ได้ คำตอบก็คือ 1. ถึงคราวซวยของมหาวิทยาลัย จึงมีเหตุให้เป็นไปเช่นนั้น และ 2. เพราะมหาวิทยาลัยสกปรก ไม่สะอาด เต็มไปด้วยคนที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ใจสกปรก มีการเล่นพรรคเล่นพวก ไม่มีความยุติธรรม หวังแต่ประโยชน์ตน ไม่มีความโปร่งใส จึงเปิดโอกาสให้ เหี้ย เข้ามาได้ ตอนนี้ที่นั่น จึงเต็มไปด้วยญาติพี่น้องของพวกเหี้ย

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น “เพราะ เหี้ย 1 ตัวจะวางไข่ปีละครั้งๆละ 20-30 ฟอง มีอัตราการตายน้อยมาก ส่วนใหญ่จะแก่ตายไปเอง หรือไม่ก็กัดกันตาย ส่วนเหี้ยแก่ใกล้ตายนั้นจะไม่ทำอะไรเลย นอนซึม ไม่หาอาหาร ผอมแห้งลงไปเรื่อยๆ และตายไป

ที่ว่ามา จะสอดคล้องกับที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ จำนวนประชากรเหี้ยถูกบรรจุจากญาติพี่น้องของเหี้ยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเหี้ยดั้งเดิมก็ใกล้จะหมดอายุไข ถ้าไม่กัดกันตายไปเสียก่อน ส่วนที่แก่ใกล้ตายนั้นจะถูกส่งไปไว้ในคุก

วันนี้ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล บอกว่า “สงสารเหี้ยจัง คนทำไม่ดีก็ลงที่เหี้ย เช่น คนเหี้ยๆ คนโง่ก็ลงที่ควาย เช่น โง่เหมือนควาย พออีกา มาร้อง กากากา ก็โทษว่า อีกาปากไม่ดี มาร้องสาปแช่ง สรุป คนนั่นแหละตัวดี สัตว์ไม่เกี่ยวเลยสักนิด เอะอะก็โทษสิ่งอื่นไว้ก่อน ไม่สำเหนียกหันมาดูตนเอง ช่างน่าสมเพช จังเลย”…..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *