จิตและวิญญาณ 2

elephants

จิปะถะ
จิตและวิญญาณ 2
1
เรื่องเกี่ยวกับจิตและวิญญาณนั้น ในทางพระพุทธศาสนา จิตกับวิญญาณ เป็นสิ่งเดียวกัน มีธรรมชาติเป็นประภัสสร คือไม่มีอะไรมาปรุงแต่งให้เปลี่ยนไป ส่วนในลัทธิโยคี ดวงจิต หรือ จิตกับวิญญาณ เป็นคนละสิ่งกัน ดวงจิตปกติเป็นสภาพที่ผ่องใสอยู่เสมอ แต่เมื่อมีอารมณ์เข้ามากระทบจึงทำให้ดวงจิตเปลี่ยนไป ส่วนวิญญาณนั้นอยู่สูงขึ้นไปจากจิต แต่การที่จะอธิบายว่า วิญญาณ ในลัทธิโยคีว่าคืออะไรนั้น ค่อนข้างยาก และดูเหมือนยังไม่มีใครที่สามารถอธิบายให้แจ่มแจ้งโดยไม่มีข้อโต้แย้งได้ แม้แต่หลวงวิจิตรวาทการ(2553:34-37)ก็ต้องขอให้เชื่อกัน ซึ่งถ้าไม่เชื่อก็แล้วไป ตามที่ท่านว่าไว้ เก็บความโดยสรุปได้ ดังนี้
2
วิญญาณ ในลัทธิโยคี มีลักษณะเหมือนดวงไฟที่ไม่รู้จักดับ ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยตาและกายธรรมดาได้ ท่านเปรียบเทียบให้เห็นว่า ดวงไฟในดวงอาทิตย์เป็นเครื่องให้ชีวิตแก่สรรพสิ่งในโลกฉันใด ดวงไฟในวิญญาณ เมื่อเข้าไปอยู่ในสิ่งใดก็ให้ชีวิตแก่สิ่งนั้นฉันนั้น
3
วิญญาณ เป็นของสูง จึงต้องทำแต่เรื่องสูงๆซึ่งเป็นเรื่องของวิญญาณเท่านั้น ส่วนงานอื่นๆเป็นเรื่องของดวงจิตที่จะต้องทำแทน แต่ไม่ว่าดวงจิตจะทำอะไรลงไป ผลงานนั้น วิญญาณจะต้องรับผิดชอบ ท่านเปรียบเทียบว่า ร่างกายของมนุษย์นั้นเหมือนอาณาจักรหนึ่ง มีวิญญาณ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ดวงจิตเป็นเสนาบดี ซึ่งตามปกติ ทั้งเสนาบดีและประชาชนทั่วไปก็จะไม่ทราบว่า พระเจ้าแผ่นดินได้ทรงทำอะไรบ้าง หากพระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จออกไปนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวพระองค์ก็จะเอาบุคคลที่ใกล้ชิดไปด้วย ปล่อยให้เสนาบดีดูแลอาณาจักรไป ดังนั้นเมื่อวิญญาณออกจากร่าง จะไปกับเจตภูตหรือกายทิพย์ ไปทำอะไรบ้างจิตก็ไม่รู้ จิตคงทำหน้าที่ดูแลร่างกายไป
4
ในสภาพที่มนุษย์เป็นอย่างนี้ คือ จิตเป็นผู้รู้สึก ต้องรับภาระในการดูแลทั้งร่างกายและวิญญาณ ดังนั้นเมื่อร่างกายแตกดับ จิตก็ดับไปด้วย ส่วนวิญญาณก็ต้องออกจากร่างไป จนกว่าจะได้ร่างใหม่ หรือไปรวมกันอยู่ในที่ที่มีแต่วิญญาณเสวยสุขอยู่ตลอดกาล ถ้าเชื่อตามนี้ ความตายจึงไม่ใช้เรื่องที่จะต้องวิตกกังวลแต่อย่างใด เพราะความตายเป็นแต่เพียงการเปลี่ยนสภาพเท่านั้น เมื่อได้ร่างใหม่ก็เท่ากับเป็นการเริ่มต้น ปัญหาที่วิตกกังวลน่าจะเป็นความเจ็บมากกว่า แต่นั่นแหละ เมื่อความตายเกิดขึ้น ความเจ็บก็หมดไป
5
ในทางพระพุทธศาสนา นิพพานเป็นสิ่งสูงสุดฉันใด ในลัทธิโยคี การมองเห็นความเป็นไปของวิญญาณก็เป็นสิ่งสูงสุดฉันนั้น ผู้ที่ได้ฝึกวิชาเหล่านี้ จนสามารถที่จะเข้าถึงวิญญาณ รู้ความเป็นไปของวิญญาณ และสามารถติดต่อกับวิญญาณของตนเองและวิญญาณอื่นๆได้ ก็ถือเป็นสูงสุดของลัทธิโยคี ผู้ที่เป็นเช่นนี้ได้ ดวงจิตจะต้องไปรับการฝึกฝนให้เพียงพอ จนสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ หลวงวิจิตรวาทการท่านเปรียบว่า เหมือนเสนาบดีที่ชาญฉลาดสามารถเฝ้าใกล้ชิดและทราบพระประสงค์ของพระเจ้าแผ่นดินได้ทุกประการ
6
ผมขอจบเรื่องกายและจิตที่เขียนกระท่อนกระแท่นง่อนแง่นและยากยิ่งโดยย่อเพียงแค่นี้ สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องนี้ ควรหาหนังสือ ลัทธิโยคีและมายาศาสตร์ของหลวงวิจิตวาทการ มาอ่าน เล่มละ 115 บาท เท่านั้นเอง คุ้ม เพราะมีเรื่องน่ารู้และน่าสนใจกว่าที่ผมเขียนเยอะเลย
………
วิจิตรวาทการ,หลวง.(2553).ลัทธิโยคีและมายาศาสตร์.พิมพ์ครั้งที่ 2.กรุงเทพฯ สาร้างสรรค์บุ๊คส์.

 

Comments are closed.