หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน จดหมายจากพ่อ

br1.net

พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ลูกจ๋า พ่อไม่รู้จะทำอย่างไรดีที่จะสื่อให้ลูกได้รู้ว่า ขณะนี้พ่อของลูกกำลังได้รับความลำบากยากเข็นอย่างที่สุด พ่อจึงใช้วิธีเขียนจดหมายถึงลูก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถสื่อสารผ่านภพภูมิถึงลูกได้หรือไม่ ก็เพียงแต่หวังว่าอาจจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะสื่อให้ลูกรู้ว่า ขณะนี้พ่อของลูกกำลังทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสจากเสียงสาปแช่งของผู้คนเป็นจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของลูก
จากเสียงสาปแช่งที่รบกวนพ่ออยู่ทุกค่ำคืนนั้นจับใจความได้ว่า ลูกของพ่อได้รับเลือกให้เป็นผู้บริหาร ซึ่งเป็นส่วนที่พ่อรู้สึกยินดีและภาคภูมิใจในความสำเร็จของลูกจริงๆ แต่ในส่วนอื่นกลับแสดงให้เห็นว่าลูกของพ่อลุแก่อำนาจในการบริหารงาน สร้างความเดือดร้อนไปทั่วหน้า เช่น เรียกตัวผู้ที่ไปปฏิบัติงานที่อื่นกลับ ทำให้พวกเขาต้องพลัดพรากจากครอบครัว บางคนขาดโอกาสที่จะดูแลมารดาซึ่งเจ็บป่วยทั้งๆที่เป็นลูกคนเดียว
จากเสียงสาปแช่งทำให้พ่อรู้ว่า ลูกของพ่อได้ทำลายระบบครอบครัวของผู้ใต้บังคับบัญชาลงอย่าง
สิ้นเชิง ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่พึงกระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน จึงเป็นเหตุให้หลายคนได้รับความทุกข์ทรมานใจ และเมื่อไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใคร ก็หันไปพึ่งสิ่งชั่วร้ายให้ช่วยสาปแช่ง ซึ่งเขาเหล่านั้นมิได้สาปแช่งลูกเท่านั้นแต่ยังสาปแช่งพ่อของลูกด้วย แต่ก่อนทุกคืนพ่อจะนอนหลับอย่างสบาย มีความสุขสงบ แต่ขณะนี้พ่อของลูกกลับนอนไม่หลับเพราะเสียงสาปแช่งของคนที่สิ้นหวังและเจ็บปวดเหล่านั้นที่รบกวนพ่ออยู่ตลอดเวลา จนลุ่มร้อนไม่เป็นอันกินอันนอน ลำบากจริงๆลูก
เสียงสาปแช่งบ่งบอกว่า ลูกของพ่อได้ใช้อำนาจบีบครั้นให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องพลัดพรากจากครอบครัวที่เป็นที่รัก จากพ่อแม่ที่ต้องดูแล ทีแรกพ่อไม่ค่อยเชื่อ ไม่เชื่อว่าลูกของพ่อจะทำเช่นนั้นได้ เพราะลูกเองก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกกตัญญูกตเวที ดูแลพ่อแม่
เสียงสาปแช่งบอกพ่อว่า ลูกอธิบายเรื่องการดูแลพ่อแม่หรือความกตัญญูกตเวทีกับผู้ใต้บังคับบัญชาว่า โดยส่วนตัวลูกเข้าใจทุกอย่างและเห็นใจ แต่ในฐานะที่เป็นผู้บริหาร ลูกต้องทำตามระเบียบทำตามหน้าที่ ลูกจ๋า คำสาปแช่งส่วนนี้ทำให้พ่อตกใจมาก เพราะถ้าตำแหน่งผู้บริหารทำให้ลูกของพ่อต้องสูญเสียความเมตตาในเรื่องความกตัญญูซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรมี พ่อก็คงจะพูดได้แต่เพียงว่า พ่อเสียใจ เพราะสิ่งนี้ทำให้พ่อรู้ว่าที่ลูกปฏิบัติกับพ่อและแม่นั้นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของลูก
ลูกจ๋า ตำแหน่งผู้บริหารนั้น เปรียบได้กับหัวโขน ถ้าหัวโขนที่ลูกสวมอยู่นั้นทำให้ลูกต้องสูญเสียความเป็นมนุษย์แล้ว พ่อคิดว่า ลูกไม่ควรจะสวมมันไว้อีกต่อไป
ความจริงแล้ว ตำแหน่งผู้บริหาร หรือเก้าอี้ที่ลูกนั่งอยู่นั้น เป็นเก้าอี้ของพรหม เป็นเก้าอี้ศักดิ์สิทธิ์ ที่จารึกหัวใจคาถาพรหมวิหาร ๔ ไว้ คือ เม กะ มุ อุ ผู้ที่จะนั่งได้อย่างตลอดลอดฝั่ง บริหารงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี มีคนรักใคร่เชิดชู ต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจอย่างพรหมเท่านั้น
คำว่า พรหม แปลว่า ประเสริฐ วิหาร แปลว่า ที่อยู่ คำว่า พรหมวิหาร หมายความว่า เอาใจจับอยู่ในอารมณ์แห่งความประเสริฐ หรือเอาใจไปขังไว้ในความดีที่สุด ซึ่งมีคุณธรรม ๔ ประการ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อันเป็นธรรมประจำใจอันประเสริฐ ธรรมที่ต้องมีไว้เป็นหลักใจและกำกับความประพฤติ จึงจะชื่อว่าดำเนินชีวิตหมดจด และปฏิบัติต่อมนุษย์และสัตว์โดยชอบ (บางท่านเรียกคาถาหัวใจพระธรณี) มีรายละเอียด ดังนี้
เม ย่อมาจาก เมตตา แปลว่า ความรัก มีความปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข มีจิตอันแผ่ไมตรีและคิดทำประโยชน์แก่มนุษย์และสัตว์ ทั่วหน้า
กะ ย่อมาจาก กรุณา แปลว่า ความสงสาร คิดช่วยให้พ้นทุกข์ ใฝ่ใจในอันจะปลดเปลื้องบำบัดความทุกข์ยากเดือดร้อนของปวงสัตว์
มุ ย่อมาจาก มุทิตา แปลว่า ความยินดี ในเมื่อผู้อื่นอยู่ดีมีสุข มีจิตผ่องใสบันเทิง กอปรด้วยอาการแช่มชื่นเบิกบานอยู่เสมอ ต่อสัตว์ทั้งหลายผู้ดำรงในปกติสุข พลอยยินดีด้วยเมื่อเขาได้ดีมีสุข เจริญงอกงามยิ่งขึ้นไป
อุ ย่อมาจาก อุเบกขา แปลว่า ความวางเฉย ความวางใจเป็นกลาง อันจะให้ดำรงอยู่ในธรรมตามที่พิจารณาเห็นด้วยปั¬¬ญญา คือมีจิตเรียบตรงเที่ยงธรรมดุจตราชู ไม่เอนเอียงด้วยรักและชัง พิจารณาเห็นกรรมที่สัตว์ทั้งหลายกระทำแล้ว อันควรได้รับผลดีหรือชั่ว สมควรแก่เหตุอันตนประกอบพร้อมที่จะวินิจฉัยปฏิบัติไปตามธรรม รวมทั้งรู้จักวางเฉยสงบใจมองดู ในเมื่อไม่มีกิจที่ควรทำ เพราะเขารับผิดชอบตนได้ดีแล้ว เขาสมควรรับผิดชอบตนเอง หรือเขาควรได้รับผลอันสมกับความรับผิดชอบของตน
ผู้ดำรงในพรหมวิหาร ย่อมช่วยเหลือมนุษย์สัตว์ทั้งหลายด้วยเมตตากรุณา และย่อมรักษาธรรมไว้ด้วยอุเบกขา ดังนั้น แม้จะมีกรุณาที่จะช่วยเหลือปวงสัตว์แต่ก็ต้องมีอุเบกขาด้วยที่จะมิให้เสียธรรม (พระพรหมคุณาภรณ์.(ป.อ. ปยุตฺโต). พจนานุกรมพุทธศาสตร์. ๒๕๕๓ : ๑๒๔)
ลูกจ๋า พ่ออยากให้ลูกได้พิจารณาหลักธรรมที่พ่อได้ยกมานี้ เพราะอย่างไรก็ตาม พ่อก็ยังหวังอยู่ว่า ลูกของพ่อจะสำนึกได้ กลับมามีหัวใจอย่างพรหม ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อยังเชื่อว่า เป็นตัวตนที่แท้จริงของลูก
รักและห่วงใยลูกเสมอ
จากพ่อ

ป.ล. พ่ออยากให้ลูกอ่านจดหมายให้แม่ฟังด้วย เพื่อเป็นอีกแรงใจหนึ่งที่จะเตือนสติลูก

Comments are closed.