NO SURRENDER

guns

จิปาถะ
NO SURRENDER
ประสบการณ์ที่ผมยังจดจำได้ไม่รู้ลืมก็คือ ทุกครั้งที่ผมกับผู้บังคับบัญชามีปัญหากัน และจะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่างมันเถอะ เพื่อนของผมก็จะหายไปประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ และในจำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ที่เหลืออยู่ ก็ไม่ค่อยกล้าพูดคุยกับผมเท่าไรนัก พอจะหลบหลีกได้ก็หลบทันที จะเหลือจริงๆสัก 2-3 คนก็ยังยาก แต่ผมไม่สนใจหรอก เพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังเป็นเพื่อนเขาอยู่ ดี และรอวันเวลาที่เขาจะกลับมาคบกับผมอีก คนเรามีวิถีที่แตกต่างกัน เขาก็เป็นอย่างของเขา ผมก็เป็นอย่างของผม ซึ่งไม่ต้องการผลประโยชน์อะไรจากใครทั้งสิ้น เมื่อผมตัดสินใจทำอะไรแล้ว ผมจะไม่ยอมเลิกง่ายๆ ต้องว่ากันสุดๆ ไม่มีคำว่ายอมแพ้ NO SURRENDER
มีเพื่อนหลายคนถามว่า ไม่กลัวรึ ผมนิ่งไปคู่หนึ่ง นึกถึง อนุศาสน์ ของ ภีษมะที่ให้แก่ ยุธิษฐิระ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจเตือนสติให้ตั้งมั่นอยู่ในทางที่ชอบที่ควร จะได้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขแก่ตนเองและแก่แผ่นดิน ใน บรรพที่ 12 : ศานติบรรพ (ตอนสันติภาพ) ในมหาภารตยุทธ ความตอนหนึ่งว่า
“มนุษย์กลายเป็นพรหมในเมื่อเขาหมดความกลัวและไม่มีผู้ใดกลัวเขา
มนุษย์กลายเป็นพรหมเมื่อเขาไม่รักและไม่เกลียดผู้ใด
มนุษย์กลายเป็นพรหมในเมื่อเขาไม่เบียดเบียนผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นด้วย กาย วาจา หรือใจ” (กรุณา-เรืองอุไร.231)

ส่วนผมหมดความกลัวเพราะไปฟังท่าน ศ.ศิวรักษ์พูดว่า “ปืนถ้าเราไม่กลัวมัน มันก็ไม่มีความหมาย”
…..
อ้างอิง
กรุณา – เรืองอุไร กุศลาศัย แปล.(2532).มหาภารตยุทธ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม.

 

Comments are closed.