เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน เปิดโลก

gogh

จิปาถะ
เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน เปิดโลก

“ท่านนิรยบาลพาใครมาอีกล่ะ” เสียงท่านท้าวพญายมราช ผู้มีพระวรกายสีแดงทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ประทับนั่งบนบัลลังก์ พระหัตถ์ขวาถือบ่วงยมบาศก์พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้ท้าวยมทัณฑ์ ผู้พิพากษาและผู้ปกครองดวงวิญญาณทั้งหลายในนรกภูมิ ร้องถาม ท่านยมทูตหรือ นิรยบาล ที่หมอบอยู่ตรงหน้ากับบุรุษหนึ่ง
นายนิรยบาลเงยหน้าขึ้นและตอบว่า “ครู ขอรับ กระผม” แล้วก้มหมอบลง
“อ๋อ ครูใหญ่ รึ มีอะไรอีกล่ะ ว่ามาซิ” ท้าวพญายมราชถามอย่างเมตตา
“กระผมอยากจะไปพบลูกทั้งสองอีกสักครั้ง ขอรับ กระผม” ครูใหญ่เงยหน้าขึ้นตอบเบาๆแล้วก้มหน้าลงตามเดิม
“อะไรกัน เพิ่งไปมาเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง งานที่สัญญาว่าจะทำเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าก็ยังคั่งค้างอยู่” ท้าวพญายมราชพูดทบทวนอย่างอารมณ์ดี
“ขอรับ กระผม” ครูใหญ่ตอบเบาๆ
“คราวที่แล้วไป ยังไม่ครบ 2 วันตามที่ขอไว้ ผลุนผลันรีบกลับมาก่อน เอาแต่ใจตัวเองทั้งพ่อทั้งลูกนั่นแหละ”พญายมราชบ่นเบาๆ
“ขอรับ กระผม” ครูใหญ่ก้มหน้าตอบ
“จะไปทำไมอีกล่ะ ครู” ท่านพญายมราชถาม
“อยากไปดูว่าเรื่องราวมันไปถึงไหนแล้ว อีกอย่าง จะไปขอร้องให้ลูกทั้งสองกลับมามีใจเมตตาอีกสักครั้งขอรับ กระผม ” ครูใหญ่พูดเบาๆเชิงขอร้อง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ท้าวพญายมราชหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับกล่าวว่า “ยังไม่เข็ดอีกรึ ลูกของครูเขาไม่สนใจครูหรอก อย่าไปห่วงเขาเลย เอาอย่างนี้ดีกว่า อยากรู้อะไรก็ดูเอาเอง จะให้ท่านนิรยบาลเขาเปิดโลกให้ดู”
ยังไม่ทันที่ครูใหญ่จะพูดอะไรต่อ ท่านนิรยบาลก็เปิดโลกให้เห็นพร้อมกับบรรยายว่า
“นั่นกลุ่มอาจารย์และเจ้าหน้าที่ ต่างเกรงกลัวลูกของครูกันจนลนลานไปหมด ทำงานไม่เป็นสุข ต้องรีบมาเซนต์ชื่อให้ทันเดี๋ยวจะโดนขีดเส้นแดง”
“นั่นกลุ่มอาจารย์และเจ้าหน้าที่ ที่ถูกเขาเยาะเย้ยว่า “ อิ อิ สถาบันของสังคมอุดมปัญญา แห่งท้องถิ่น แต่ไม่มี ปัญญากล้าหาญ ที่จะแสดงออก แม้แต่ในทางลับด้วย Like เลยหรือนี่…พวกขุมปัญญาตาแตกว่างัย ????”
“นั่นกลุ่มอาจารย์อีกพวกหนึ่งซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเป็นผู้สอนและกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ระดับบัณฑิตศึกษา มีการเอาชื่อออกจากผู้สอนโดยไม่ทราบเหตุผลและไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารหลักสูตร ทั้งๆที่สอนวิชานั้นมานานแล้ว และได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยังคณะกรรมการอุทธรณ์แล้ว ปรากฏว่า คณะกรรมการฯ มีหน้าที่เพียงรับเรื่องราวร้องทุกข์เท่านั้น”
“นั่นกลุ่มอาจารย์ที่เป็นพวกพ้องต่างได้รับส่วนแบ่งงานสอนโดยทั่วถึงกัน แต่ต้องหลังจากที่ลูกครูทั้งสองรับไปจนเต็มเหยียดแล้วนะ ส่วนอาจารย์ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามไม่มีชื่อเป็นผู้สอนเลยแม้แต่คนเดียว ลูกของครูแน่นอนจริงๆ”
“โน่นพวกที่ใช้เฟซบุ๊ก เขียนอบรมสั่งสอนลูกของครูในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมทุกวันอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดหย่อน ว่ากันว่า “การร่วมมือประณามคนชั่ว จึงได้ชื่อว่า คนดีโดยแท้”
“นั่นศูนย์ภาษาไทยที่มหาวิทยาลัยภูมินทร์ พนมเปญ ถูกมหาสารคาม เทคโอเวอร์ไปแล้ว เพราะลูกของครูกรีดกันลูกน้องตัวเอง กลัวว่าเขาจะได้ดิบได้ดี เห็นไหมล่ะ เสียแต้มไปจมเลย”
“โน่นศูนย์วิจัยและพัฒนาที่มีเรื่องยุ่งๆกันอยู่ …”
นิรยบาล ปิดโลก เมื่อพญายมราชสั่งว่า พอแล้ว
“เป็นอย่างไรครู” ท่านพญายมราชถาม
“ครับ กระผม…..ก็สะเทือนใจอยู่ครับ… แต่ยังอยากไปขอรับ กระผม”
“หมายความว่าจะอุทธรณ์ อย่างนั้นหรือ”
“ครับ กระผม”
“เรื่องอุทธรณ์นี่ลูกของครูก็ไม่เห็นยอมใครเลย นี่นา”
“ เอา เอา !”ท่านพญายมราชตัดบท “ตามใจ นี่เห็นแก่ครูของครูนะ” และก่อนที่ท้าวพญายมราชจะลุกออกไปได้สั่งให้ นิรยบาลพาครูใหญ่ไปพบลูกและให้รีบพากลับมาโดยเร็ว

บ่ายวันนั้น พายุฝนพัดกระโชกแรงอย่างไม่มีปีมีขลุ่ยทั่วบริเวณสถาบัน ต้นไม้โอนเอนบิดตัวอย่างปวดร้าวไปตามกระแสลมแรง ใบไม่ปลิวว่อนหมุนวนเป็นหลุมลึก เสียงฟ้าร้องครวญคร่ำดั่งเสียงสะอื้นของปีศาจ ที่อาคาร 15 ชั้น ลมเย็นพัดวูบเป็นสายมาทางด้านหน้าอาคารเข้าไปในลิฟท์ที่เปิดอ้าและปิดลง นักศึกษาที่ออกมาจากลิฟท์ผงะหงายไปเหมือนถูกผลักด้วยสีหน้าตื่นตระหนก อากาศ ณ ชั้นสองเย็นยะเยือก เงียบสงัดดั่งป่าช้าร้าง ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นเวลา 2 นาที
….

 

Comments are closed.