เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ดวงอาทิตย์

worlds

จิปาถะ

เรื่องสั้น  หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ดวงอาทิตย์

250

เรื่องของดวงอาทิตย์นั้น คนโบราณได้สังเกตการโผล่ขึ้นมาของดวงอาทิตย์ทางด้านทิศตะวันออกและจมหายลับไปทางทิศตะวันตก เป็นผลทำให้เกิดแสงสว่างและความมืดสลับกันไปบนโลกที่เรียกว่ากลางวันและกลางคืน ปรากฎการณ์ดังกล่าว ทำให้คนโบราณสามารถลำดับเวลาบนพื้นโลก และได้พัฒนาไปสู่การสร้างปฏิทินและนาฬิกาที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้

ชาวไอยคุปต์หรือชาวอียิปต์โบราณมีตำนานเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ   จาก “จินตนาการเกี่ยวกับลำน้ำไนล์บนท้องฟ้ามีที่มาจากแนวความคิดว่าโลกสะท้อนความเป็นไปบนท้องฟ้า และมาจากแนวคิดเรื่องระเบียบของจักรวาลที่ว่า ท้องฟ้าคือต้นแบบ และเทพเจ้าต่างๆ คือ ผู้กำหนดรูปแบบให้คนบนโลกเดินตาม ด้วยเหตุว่าท้องฟ้าคือต้นแบบ คนโบราณจึงจินตนาการว่าท้องฟ้าที่มีลักษณะเป็นทรงกลมใหญ่นี้ก็เหมือนกับโลกของพวกเขา บนแผ่นดินไอยคุปต์มีแม่น้ำไนล์ไหลผ่าน บนท้องฟ้าของชาวไอยคุปต์และในโลกใต้พิภพก็ต้องมีแม่น้ำไนล์ไหลผ่านเช่นเดียวกัน และในแม่น้ำไนล์ที่ไหลผ่านท้องฟ้าและโลกใต้พิภพก็ยังมีสัตว์อาศัยอยู่คล้ายๆกัน กับบนโลก แม่น้ำไนล์บนโลกมีจระเข้ที่ดุร้ายอาศัยอยู่ แม่น้ำไนล์บนฟ้าก็มีอาเป็บ (ปีศาจงู) นอกจากนี้ใต้ผืนทะเลทรายของแผ่นดินไอยคุปต์มีงูพิษ ในโลกใต้พิภพก็มีกองทัพปีศาจงูอาศัยอยู่”

( Tamra  Andrews.2553:12)

251

ชาวไอยคุปต์เชื่อว่า ดวงอาทิตย์ หรือเทพเจ้า ราห์ คือ เทพเจ้าผู้สร้างโลก พระองค์มีพระวรกายเหมือนมนุษย์แต่มีพระเศียรเป็นนกเหยี่ยว พระองค์เป็นผู้บันดาลความสว่าง ความอบอุ่นและสรรพชีวิตบนโลก เป็นเทพแห่งนครสุริยะ หรือ เฮลิโอโพลิส  ทุกวันพระองค์จะต้องออกเดินทางข้ามฟากฟ้าด้วย “นาวาสุริยะ” แล่นข้ามมหาสมุทรหรือแม่น้ำไนล์แห่งสวรรค์ และหายไปใต้ขอบฟ้าด้านตะวันตก นาวาของพระองค์จะผ่านสถานีกลางวัน 12 สถานี  จากนั้น พระองค์ก็จะเปลี่ยนไปขึ้น “นาวาล้านปี” เดินทางฝ่าความมืดในเวลากลางคืนของแม่น้ำไนล์ สู่อาณาจักรแห่งความตายใต้พิภพ ซึ่งจะต้องพบกับ อาเป็บ ปีศาจงู ผู้ครองอาณาจักรแห่งความตาย มันจะปรากฏกายขึ้นในท้องน้ำแห่งความมืด และพยายามที่จะจัดการนาวาล้านปีของเทพเจ้าราห์ ให้จงได้ พระองค์ได้ใช้หอกต่อสู่กับปีศาจงูเป็นสามารถ  ในที่สุดก็พิชิตปีศาจงูได้ด้วยหอก ทำให้ทั่วท้องฟ้าของแผ่นดินไอยคุปต์ แดงฉานไปด้วยเลือดของปีศาจ  เทพเจ้าราห์ต้องผ่านสถานีกลางคืน 12 สถานี และต่อสู้กับปีศาจงู 12 ชั่วโมง

เนื่องจากเทพเจ้าราห์ ต้องต่อสู้กับปีศาจงูในอาณาจักรแห่งความตาย  ชาวไอยคุปต์ต่างเป็นห่วงเทพเจ้าของพวกเขา และเอาใจช่วยพระองค์โดยการสวดภาวนาให้พระองค์ประสพชัยชนะ และเมื่อดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นเหนือขอบฟ้าอีกครั้ง นั่นหมายความว่า พระองค์เป็นผู้ชนะ  ชาวไอยคุปต์ก็จะส่งเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญในการกลับมาเพิ่มความสดใหม่ให้แก่โลกอีกครั้ง

252

ความเชื่อที่ว่าบนฟ้ามีแม่น้ำนี้เกิดจากความเข้าใจว่าแหล่งสมุทรไม่มีขอบเขตสิ้นสุด เพราะแทนที่มหาสมุทรจะหายลับไปใต้เส้นขอบฟ้าดังที่ปรากฏต่อสายตา แต่เชื่อว่าน้ำได้แผ่ล้ำขึ้นไปบนท้องฟ้า ความเชื่อนี้ปรากฏอยู่ในตำนานปรัมปราของหลายวัฒนธรรม  “ชาวอินเดียมีเรื่องเล่าของแม่น้ำคงคาบนฟ้า ของจีนมีแม่น้ำเทียนโหบนฟ้า หรือแม่น้ำสายเงิน ขณะที่ตำนานของชาวเปรู แม่น้ำปีลากาโนตาบนท้องฟ้าคือผู้มีบทบาทสำคัญในวัฏจักรของน้ำ คนโบราณในหลายวัฒนธรรมมีความเข้าใจคล้ายๆกันว่า ทางช้างเผือกคือแม่น้ำบนท้องฟ้า”( Tamra  Andrews.2553:13)

ทำไมคนโบราณถึงเชื่ออย่างนั้น เพราะอยู่ดีๆน้ำที่เรียกว่าฝน ก็โปรยลงมาจากฟ้า  ถ้าไม่มีแม่น้ำบนท้องฟ้า น้ำฝนจะมาจากไหน เหตุเพราะคนโบราณยังไม่เข้าใจว่าฝนเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในวัฏจักรของน้ำ ที่น้ำจากผิวน้ำในมหาสมุทรและแหล่งน้ำอื่นๆระเหยกลายเป็นไอ ควบแน่นเป็นละอองน้ำในอากาศ ซึ่งรวมตัวกันเป็นเมฆ และในที่สุดตกเป็นฝนตกลงมา และไหลลงแม่น้ำ ลำคลองสู่มหาสมุทร เมื่อเล่าจบ  คุณชวดแซวว่า

“หนูแต้ม ฟังจนหลับเลยนะ”

……

 

สิงห์โต  ปุกหุต.(2530).นิยายดาว.กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์.

Tamra  Andrews.(2553). ประสิทธิ์ ตั้งมหาสถิตกุล แปล.มหัศจรรย์เหนือท้องฟ้า.กรุงเทพฯ: มูลนิธิเด็ก.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *