เมตตาธรรม

square

จิปาถะ
เมตตาธรรม
คุณ Jarunee Ma Mee ได้แสดงความคิดเห็นใน จิปาถะ “หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ท่องยมโลก 3” ที่โพสต์เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2558 ความว่า “สงสารนางแต้มจัง นางก็คงอยากเป็นที่รักของทุกคน แต่นางคิดไม่ออก ไม่รู้อะไรบังตา” ข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คุณ Jarunee Ma Mee มีเมตตาธรรม สงสารนางแต้ม อยากให้เธอเป็นที่รักของทุกคน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ เพราะเธอคิดไม่ออก ไม่รู้อะไรบังตา ถือเป็นความงดงามที่แบ่งปันให้กัน
เรื่องนี้ ถ้าเป็นพุทธศาสนานิกายเซน ก็ถือได้ว่าเป็น โกอาน (Koan) หรือปริศนาธรรมที่นางแต้มจะต้องไปขบคิดหาคำตอบให้ได้ แต่เพื่อให้ง่ายขึ้น ผมขอยกตัวอย่างเรื่องเมตตาธรรม ของพระอาจารย์บังเกอิ มาเป็นแนวทาง เผื่อว่าเธออาจจะคิดออก และเห็นแสงสว่างบ้าง เรื่องมีอยู่ว่า
พระอาจารย์บังเกอิ พระนิกายเซน ได้จัดกิจกรรมการฝึกภาวนาขึ้นที่วัด ได้มีนักบวชและผู้สนใจมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก และเมื่อมีคนมารวมตัวกันมากก็มักจะมีพวกมิจฉาชีพหลงหูหลงตาเข้ามาด้วย
วันหนึ่งผู้ร่วมฝึกภาวนาสมาชิกได้รวบตัวหัวขโมยได้คนหนึ่ง และได้นำตัวมาให้อาจารย์ บังเกอิ เพื่อลงโทษ แต่อาจารย์ท่านก็เมตตาให้อภัยขโมยผู้นั้น และให้อยู่ฝึกภาวนาต่อไป ซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้ผู้ร่วมฝึกภาวนาสมาชิกได้ระดับหนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน ขโมยคนนี้ก็ก่อคดีแบบเดิมขึ้นมาอีกและถูกจับได้คาหนังคาเขา เหล่าผู้ร่วมฝึกภาวนาสมาชิกจึงได้นำตัวมาให้พระอาจารย์บังเกอิ และยื่นคำขาดว่า พระอาจารย์ต้องไล่ขโมยคนนี้ออกไปจากวัด มิฉะนั้นแล้วพวกเขาก็จะพากันออกไปจากวัดเอง
พระอาจารย์บังเกอิ กล่าวว่า “ ฉันตัดสินใจให้ศิษย์ผู้น่าสงสารคนนี้อยู่ต่อ เพราะเห็นว่าเขาเป็นผู้ไม่รู้จักถูกผิดอะไรเลย หากขับไล่เขาไปที่อื่นใครเลยจะสอนเขา แต่พวกเจ้าต่างหากที่เป็นผู้ฉลาดแล้ว รู้ดีว่าอะไรถูกอะไรผิด ดังนั้น หากพวกเจ้าคิดจะไปศึกษายังวัดอื่นก็ไม่เป็นไร แต่อย่างไรฉันก็ต้องให้ศิษย์ผู้นี้อยู่ต่อ”(อาจณรงค์.2550 : 80)
สำหรับนางแต้ม เราก็คงจะต้องให้อภัยเธอต่อไป เพราะนางเป็นคนน่าสงสาร เป็นผู้ไม่รู้จักถูกผิดอะไรเลย
ในอมตธรรมเพื่อชีวิต (2522) “เปโตรได้มาเฝ้าพระเยซูและทูลถามว่า พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์ควรจะให้อภัยแก่พี่น้อง ผู้ซึ่งทำผิดแก่ข้าพระองค์สักกี่ครั้งจึงจะพอ? สักเจ็ดครั้งจะพอหรือไม่” พระเยซูตรัสตอบว่า “เท่านั้นไม่เป็นการเพียงพอ ต้องเจ็ดสิบคูณด้วยเจ็ดครั้งจึงจะเหมาะ(พระคริสตธรรมใหม่.2522 : 33)
เท่าที่กล่าวมา ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่เหลือความหวังอะไรอยู่เลย ที่จะให้นางแต้มเปลี่ยนนิสัยมาเป็นคนดีมีศีลธรรม มีเมตตาต่อเพื่อนร่วมงาน เพราะต้องอภัยกันต่อไปจนกว่าจะครบ 490 ครั้ง แต่ข้อความต่อไปนี้ อาจทำให้พวกเราพอจะมีความหวังได้บ้าง นอกจากนางจะเลวกว่าเจ้าหัวขโมยคนนั้น
“เมื่อเจ้าหัวขโมยได้ยินที่ท่านบังเกอิพูด เขาก็หลังน้ำตาด้วยความรู้สึกสำนึกผิดทันที และรู้สึกซาบซึ้งใจในความเมตตาของท่าน ดังนั้น นับตั้งแต่นั้นมาเขาจึงไม่เคยมีนิสัยขี้ขโมยอีกเลย และสามารถอยู่ในวัดนั้นอย่างปกติสุข(อาจณรงค์.2550 : 80)

อ้างอิง
พระคริสตธรรมใหม่ ฉบับ อมตธรรมเพื่อชีวิต.(2522).พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ :ไทยวัฒนาพานิช.
อาจณรงค์ เรืองทิพย์.(2550).สุขอย่างเซน.กรุงเทพฯ : เพชรประกาย.