เทพธิดาไหม

วันพฤหัสบดีที่  30 มีนาคม พ.ศ. 2566

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (เรื่องเก่า)

เทพธิดาไหม (โพสต์ครั้งแรกเมื่อ 24 เมษายน 2558)

คราวที่แล้วได้พูดถึงเรื่องนางแมวสีสวาดที่เกิดรักเจ้าของในทำนองชู้สาวขึ้นมา จนไม่สามารถจะหักห้ามใจไว้ได้ จึงได้ขอพรให้นางฟ้าช่วย จนมีโอกาสที่ได้เปลี่ยนร่างมาเป็นคนและอยู่กับคนที่ตนเองรักได้สมความปรารถนา  แต่ด้วยธรรมชาติของตนเองนั้นเป็นแมว  ซึ่งจะต้องจับหนู   เมื่อเห็นหนูจึงอยู่เฉยไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องกลับไปเป็นแมวตามเดิม

ตอนท้ายได้ยกเรื่องนางแมว มาเป็นอุทาหรณ์สำหรับเตือนใจให้ผู้บังคับบัญชาที่เห็นแก่ตัว ใช้อำนาจบาดใหญ่ กลั่นแกล้งรังแกผู้ใต้บังคับบัญชา ว่าอย่าได้แสดงพฤติกรรมชั่วร้ายเช่นนั้น  เพราะวันหนึ่งจะต้องกลับไปสู่สภาพตามธรรมชาติที่แท้จริงของตนเองจนได้

สำหรับวันนี้จะพูดเรื่องม้าแสนรู้ที่เกิดรักเจ้าของขึ้นมาเหมือนกัน จนเป็นที่มาของเรื่อง “เทพธิดาไหม”  อันเป็นเรื่องจากตำนานดั้งเดิมของจีน มีความโดยย่อ ดังนี้

นานมาแล้ว มีครอบครัวหนึ่ง  มีพ่อ  ลูกสาว และม้าแสนรู้เป็นสัตว์เลี้ยง

ครั้งหนึ่งพ่อต้องไปธุระแดนไกล เป็นเวลาสองวัน ปล่อยให้ลูกสาวอยู่บ้านโดยมีม้าเป็นเพื่อน

ลูกสาวอยู่บ้านคนเดียว  ยามเหงาก็จะพูดคุยกับม้า ซึ่งม้าก็ผงกหัวรับแสดงว่าเข้าใจ

เวลาผ่านไปหลายวัน เลยกำหนดเวลาที่พ่อบอกว่าจะกลับ  ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงพ่อมากเกิดคิดอุตริ เธอกระซิบกับม้าว่า “ถ้าเจ้าสามารถนำพ่อของข้ากลับมาโดยเร็วและปลอดภัย เราจะแต่งงานกับเจ้าเพื่อเป็นรางวัล”

ม้าได้ยินดังนั้นก็รีบตะบึงออกจากบ้าน และก็ไปพบกับพ่อของเธอจนได้ ปรากฏว่าพ่อของเธอเกิดป่วยอย่างกะทันหัน ต้องอยู่รักษาตัว ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านตามเวลาที่กำหนดไว้ได้

จากนั้นม้าได้นำพ่อของเธอกลับบ้าน พ่อลูกดีอกดีใจที่มีโอกาสพบกันอีกครั้ง และได้นำหญ้ามาป้อนม้าเพื่อเป็นรางวัล

แต่เจ้าม้าไม่ยอมกินหญ้า คงใช้หน้าดุนไปที่ตัวลูกสาว ทำให้พ่อเกิดความสงสัย สอบถามได้ความจริงว่าเกิดจากความคิดอุตริของเธอ

พ่อกล่าวกับลูกสาวว่า ลูกไม่ต้องเป็นห่วง อย่าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง  เดี๋ยวพ่อจะจัดการเอง

รุ่งเช้าพ่อได้ฆ่าม้าทิ้ง และนำหนังม้าไปตากไว้ที่ลานหลังบ้าน  หลายวันต่อมาลูกสาวเดินไปหลังบ้านกับเพื่อนบ้าน เห็นหนังม้าก็รู้สึกเศร้าใจ ไม่คิดว่าพ่อจะฆ่าม้าทิ้ง ด้วยความอาลัย จึงเข้าไปเพื่อจะลูบหนังม้าเพื่อให้คลายความคิดถึง

ทันใดนั้น ดังปาฏิหาริย์ ได้เกิดพายุพัดกรรโชคเข้ามาตูมใหญ่ หนังม้าได้ปลิวขึ้นดังมีชีวิต  ปลิวเข้าม้วนร่างของหญิงสาวไว้และอันตรธานหายไป

เจ้าม้าวิเศษนั้นได้นำเอาหญิงสาวไปยังทุ่งหม่อน หญิงสาวได้กลายร่างเป็นตัวไหม ตามตำนานว่ามีหัวเหมือนม้า ไต่และกินใบหม่อน  เธอกลายเป็นเทพธิดาไหม ส่วนทุ่งหม่อนเรียกว่า ทุ่งคายใย กลายเป็นตำนานเรื่อง เทพธิดาไหม

 “ส่วนความคิดในการเอาตัวไหมมาทอขึ้นเป็นผ้าใช้ทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม ในตำนานก็เล่าว่า เหลยจู่ มเหสีของ หวงตี้ เป็นผู้คิดได้”(ทวีป วรดิลก .49)

จากที่นำเสนอมาจะเห็นได้ว่า  ความรักความเมตตาและการเอื้ออาทรต่อกันของคนกับคนและคนกับสัตว์เลี้ยงนั้น เป็นเรื่องของความหมดจดงดงาม ส่วนที่คนด้วยกัน โกรธเกลียด กีดกัน กลั่นแกล้ง เบียดเบียนกัน ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องของความอัปรีย์สีกบาล…จริงๆ

……….

อ้างอิง

จิตรา  ก่อนันทเกียรติ.(2544).ทำเนียบเจ้าแม่และผู้วิเศษของจีน.กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์จิตรา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *