อย่างหนา

tufu

จิปาถะ
อย่างหนา
1
“พุทราหน้ากระท่อมให้ผู้เฒ่าเก็บตามใจ
เธอเป็นหม้ายไม่มีข้าวไม่มีลูก
หากความจนไม่บีบ เธอทำเช่นนี้ย่อมไม่ถูก
เราควรผูกพันเธอด้วยเมตตา หาไม่เธอจะหนีไปเพราะความกลัว”(ม.ป.ป.16)
บทกวีที่นำมาเสนอในวันนี้ เป็นผลงานของ ตูฟู มหากวีจีนแห่งราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 712-770) ที่เขียนขึ้นในขณะที่ท่านเสียใจและโกรธญาติของท่านมาก เป็นกวีที่เขียนขึ้นกว่าพันปีมาแล้ว
2
เรื่องมีอยู่ว่า ในปี ค.ศ. 765 ท่านตูฟู ทนต่อการปกครองที่ชั่วช้าของเจ้าหน้าที่อยุติธรรมไม่ได้ หมดหนทางที่จะบรรลุอุดมคติของตน จึงลาออกจากราชการ และย้ายไปอยู่ที่เมืองกุ้ยโจว ปลูกกระท่อมอยู่ริมแม่น้ำ ข้างๆกระท่อมมีต้นพุทราใหญ่ต้นหนึ่งออกดอกผลดกมาก บ่ายวันหนึ่งท่านตูฟูได้ยินเสียงไม้ไผ่ฟาดต้นพุทรา ท่านเดินออกมาดูนอกกระท่อม ก็เห็นหญิงชราแต่งกายซอมซ่อกำลังเก็บผลพุทราที่ตกอยู่ตามพื้นดิน
เมื่อหญิงชราเห็นตูฟู จึงรีบฉวยตะกร้าวิ่งหนี แต่โชคร้าย เธอวิ่งไปสะดุดตอไม้ล้มลง ตูฟูได้เข้าไปช่วยพยุงให้หญิงชราลุกขึ้นถามว่าเจ็บตรงไหนบ้างและช่วยเก็บผลพุทราใส่ตะกร้าให้ ในขณะเดียวกันก็ถามถึงเหตุผลที่แอบมาขโมยเก็บพุทรา
หญิงชราเห็นตุฟูเป็นคนใจดี จึงเล่าเรื่องของเธอให้ฟังว่า สามีของเธอถึงแก่กรรมไปนานแล้ว เธอไม่มีบุตร อยู่ตัวคนเดียวไม่มีวิธีที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้จึงต้องแอบมาขโมยพุทรา
ตูฟูจึงกล่าวกับหญิงชราว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป เธอสามารถมาเก็บพุทราได้ตามใจชอบ หลังจากนั้นหญิงชรามาเก็บพุทราอยู่เนื่องๆ
3
สองปีต่อมาตูฟูต้องย้ายไปที่อื่น จึงให้นายหวู่ ญาติคนหนึ่ง มีอาชีพรับจ้างดูแล และสั่งว่า “ถ้าหญิงชรามาเก็บพุทรา อย่าไปห้ามเธอ เธอเป็นคนจนและอยู่คนเดียว”(ม.ป.ป.13)
ปรากฏว่าหลังจากนั้นนายหวู่ ได้สร้างรั้วขึ้นโดยรอบ ทำให้หญิงชราไม่สามารถเข้าไปเก็บพุทราได้อีกต่อไป
ตูฟูรู้สึกโกรธมากเมื่อได้ทราบข่าวนี้ และได้เขียนบทกวีส่งให้นายหวู่
เมื่อนายหวู่อ่านบทกวีนี้แล้วรู้สึกอายมาก และรื้อรั้วทิ้งทันที
4
จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า นายหวู่ ซึ่งมีอาชีพรับจ้าง เป็นคนเห็นแก่ตัว ล้อมรั้วไม่ให้หญิงชราเข้ามาเก็บพุทรา แต่เมื่อได้อ่านบทกวีของตูฟู ก็สำนึกได้โดยทันทีว่าตนทำผิด รู้สึกละอายใจ รีบดำเนินการแก้ไขทันที
ส่วนนางแต้มหรือผู้บริหารของผม เป็นคนดื้อรั้นเห็นแก่ตัวเช่นเดียวกับนายหวู่ ทั้งๆที่มีตำแหน่งทั้งการบริหารและวิชาการ ที่ถือว่าสำคัญมาก เป็นเกียรติ เป็นศักดิ์ศรี ของคนดี แต่ขาดสำนึก โลภโมโทสัน ใช้อำนาจบาตรใหญ่ อยากได้ไปเสียทุกอย่าง จิตใจมืดบอด และไม่ว่าใครจะว่ากล่าวตักเตือนอย่างไร ก็ไม่รู้สึกละอายใจ ไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น สู้นายหวู่ซึ่งมีอาชีพรับจ้างยังไม่ได้เลย อย่างนี้ถ้าเป็นกระเบื้องมุงหลังคาเขาเรียกว่า “อย่างหนา”
………..
ฮาวา ซือหมิง(ม.ป.ป.) เรณู ชูความคิด แปล ,ฟาง จุน กับ สู เหล่ย ภาพประกอบ.ตูฟู ช่วยคนจน.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วันทิพย์.

Comments are closed.