นกกระแตแต้แว้ด

จิปาถะ
นกกระแตแต้แว้ด (เรื่องจาก ลฎกิกชาดก)
กาลครั้งหนึ่งพระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาช้าง มีบริวารเป็นจำนวนมากอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ และในที่ไม่ไกลจากที่อยู่ของโขลงช้างนั้น มีนางนกไส้ (นกกระแตแต้แว้ด) ตัวหนึ่งฟักไข่เป็นลูกอ่อนหลายตัวอยู่ในแอ่งพื้นดินใกล้ทางผ่านของโขลงช้าง
วันหนึ่ง พญาช้างนำบริวารหากินไปถึงบริเวณนั้น นางนกไส้ กลัวว่าช้างจะเหยียบลูกของตน จึงได้ไปขอร้องพญาช้างให้ช่วยระวังลูกของตนด้วย พญาช้างรับคำและไปยืนค่อมลูกนกไว้ให้ปลอดภัย ก่อนจากไปพญาช้างได้เตือนนางนกไส้ว่า ยังมีช้างเกเร ไม่ยอมฟังใคร กำลังเดินตามมา ขอให้เธอจงไปขอร้องอ้อนวอนช้างเกเรนั้นเอาเองเถอะ เมื่อช้างเกเรผ่านมาถึง นางนกไส้ได้พูดอ้อนวอน เมื่อช้างเกเร ได้ยินว่านางนกไส้ มีลูกน้อยอยู่ข้างหน้ายิ่งชอบใจใหญ่ กล่าวกับนางนกไส้ว่า “แม่นางนกไส้ เอ๋ย.. เราจะฆ่าลูกน้อยของเจ้าให้หมด เจ้าจะมีปัญญาทำอะไรเราได้” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปกระทืบลูกนกแหลกละเอียดแล้วส่งเสียงร้องด้วยความสะใจจากไป ฝ่ายนางนกไส้บินหนีตายขึ้นไปจับบนกิ่งไม้ ได้กล่าวอาฆาตตามช้างเกเรนั้นว่า “ วันนี้เป็นวันของท่าน วันข้างหน้าเราจะได้เห็นดีกัน
จากนั้นนางนกไส้ได้ไปขอความช่วยเหลือจากนกกา ให้ช่วยใช้ปากที่แหลมคมจิกตาช้างเกเร ขอร้องให้แมลงวันหัวเขียวให้ช่วยตอมตาช้างให้เป็นหนอน และขอร้องกบให้ส่งเสียงร้องเพื่อให้ช้างหลงผิดคิดว่าเป็นหนองน้ำ เดินตกเหวตาย ส่วนนางนกไส้ เมื่อช้างเกเรตายแล้ว ดีอกดีใจเป็นที่สุด และสิ้นใจตายในเวลาใกล้ๆกันนั้นเอง ชาดกเรื่องนี้ มีคติสอนว่า
1) คนที่ถึงคราวมีอำนาจ ก็อย่าได้หลงตัวเองว่าใหญ่โต รโหฐาน อวดหยิ่งยโสโอหัง เอารัดเอาเปรียบ ข่มเหงรังแกเขาทั่วไป ด้วยคิดว่าเขาไม่มีทางต่อสู้ แต่จงรู้ไว้ด้วยเถิดว่า วันหนึ่งเมื่อพวกเขาทนไม่ได้ พวกเขาก็จะรวมตัวกัน ไอ้ที่ว่าใหญ่ ว่าโต หรือว่าแน่นั้น ก็พังพินาศยับเยินมานักต่อนักแล้ว
2) อย่าได้ก่อเวรกับใครๆ เลย แม้กับคนที่น่ารังเกียจ เพราะสุดท้ายก็จะพินาศย่อยยับหรือตายไปด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม ความตายนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ เมื่อถึงเวลาก็ต้องตายไป แต่อย่าเป็นอย่างช้างเกเรที่พ่ายแพ้หมดรูป แต่จงเป็นอย่างนกกระแตแต้แว้ดผู้ชนะที่องอาจกล้าหาญและมีความสุข

ศัพท์ (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2545)
ต้อยตีวิด : น. ชื่อนกชนิด Vanellus indicus ในวงศ์ Charadriidae ตัวขนาดนกเขาใหญ่ หัวสีดําขนบริเวณหูสีขาว มีติ่งเนื้อสีแดงพาดทางด้านหน้าจากขอบตาหนึ่งไปอีกขอบตาหนึ่ง ปากยาว ขายาวสีเหลือง ตีนมี 4 นิ้ว นิ้วหลังเป็นติ่งเล็ก ร้องเสียงแหลม \”แตแต้แว้ด\” กินสัตว์ขนาดเล็ก วางไข่ในแอ่งตื้น ๆ บนพื้นดิน กระต้อยตีวิด กระแตแต้แว้ด หรือ แต้แว้ด ก็เรียก.
…………
อ้างอิง
สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต).(2552) คติชีวิตจากชาดก.กรุงเทพฯ : ห้างหุ้นส่วนจำกัดสุรวัฒน์

 

Comments are closed.