จิปาถะ เรื่องสั้น โจรขโมยเงินเดือน (เจตนาร้าย)
11
มีนา จัน บอกคม หักศอกว่า ความจริงเรามีกฏหมายที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กพ. 62 มาแล้ว สำหรับจัดการพวกที่ชอบกลั่นแกล้งฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทบุคคลอื่น หรือ กลั่นแกล้งฟ้องคดีอาญา จำเลยสามารถนำพยานหลักฐานมาให้ศาลเพื่อไต่สวนและสั่งไม่มีมูลได้ทันที ไม่ต้องรอในชั้น สืบพยานโจทก์ ซึ่งต้องประกันตัวทำให้จำเลยเดือดร้อนทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิดเรื่องนี้นางแต้มและทนายพลกี๋ ทนายดีเด่นคงไม่รู้ ถ้ารู้คงหงายหลังตึง เพราะนางได้ฟ้องหมิ่นประมาท บุคลากร 7 คน ที่ศาล จังหวัดสารขัณฑ์แล้ว ต่อมาก็ฟ้องที่ศาลจังหวัดมหาคามอีก คาดว่ามันบ้าแล้ว มันคงฟ้อง ทุกจังหวัดที่ ผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ โดยมันอาศัยหนังสือที่บุคลากรทั้ง 7 คน ทำส่งถึงกรรมการทุกคน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต บ้าเลือด ขาดสติ หาเรื่องที่จะทำให้ตัวเองติดคุก เพราะถ้าหากศาล ยกฟ้อง นางแต้มก็จะถูกฟ้องกลับทันที ซึ่งตามเหตุผลแล้ว บุคลากรทั้ง 7 คน ไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาทนางแต้มแต่อย่างใดเรื่องนี้ถือเป็นข่าวร้ายที่นางแต้มอาจตกใจหงายหลังตึงถึงเป็นอัมพาต แต่กลับเป็นข่าวดีของคณาจารย์มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ทั้ง 9 คน ที่ตกเป็นจำเลยของนางแต้ม ที่กลั่นแกล้งฟ้องหมิ่นประมาท และในวันที่ 14 กันยายน ที่จะถึงนี้ ศาลสารขัณฑ์ นัดไต่สวนมูลฟ้อง และถ้าจำเลยสามารถนำพยานหลักฐานมาให้ศาลเพื่อไต่สวนและอาจสั่งไม่มีมูลได้ทันที ก็เป็นได้สรุปว่า ต่อไปนี้ ฝ่ายธรรม จะได้รับแต่สิ่งที่ดีงามเป็นมงคล ส่วนฝ่ายอธรรม ก็จะได้รับแต่สิ่งเลวร้าย และถึงซึ่งความวิบัติอย่างแน่นอน…หมายเหตุ : “คดีเดียวโจทย์ฟ้องหลายศาลหลายจังหวัด ถือว่าโจทย์มีเจตนากลั่นแกล้งจำเลย เป็นการกระทำที่มีเจตนาไม่สุจริต” ครับผม