จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง (ทุบหม้อข้าว)

วันพฤหัสบดีที่ 16  ธันวาคม พ.ศ. 2564

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง (ทุบหม้อข้าว)

16

ผู้สันทัดกรณีบอกว่า  “เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 คุณปรสิต รักษาราชการแทนอธิการบดีเถื่อนมหาวิทยาลัยกำแพงมณี เข้าร่วมการประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัย ครั้งที่ 5(161)/2564 ณ มหาวิทยาลัยบ้านเจ้าพระยา โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณา อาทิ การทบทวนโครงสร้างการบริหารตามประเด็นยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น โครงการร่วมของมหาวิทยาลัย 38 แห่ง ตามนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ ABC Model สาขาพัฒนาคน/บุคลากร เป็นต้น   คนอื่นเป็นตัวจริงหมดแต่มีคนเถื่อนอยู่คนเดียว น่าอายมาก ที่ยังกล้าเสนอหน้า   เรื่องประชุมยังเป็นเรื่องเล็กแต่มีเรื่องใหญ่คือบังอาจกราบบังคมทูลเป็นเท็จว่า เรื่องที่ศาลปกครองเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหาอะไรแล้ว จึงถือเรื่องวิ่งโร่ไปให้ท่านสมโมเซ็นเพื่อเสนอ อว. เพื่อจะเสนอขอโปรดเกล้าฯ รับรองสมโมและคณะติดคุกเสียก่อน ก่อนที่เรื่องจะเสนอโปรดเกล้าฯได้

อีกประการหนึ่งใครก็ได้ให้ร้องไปที่ อว.ว่าคุณปรสิต ขัดคำสั่งนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเสนอโปรดเกล้าฯ ซึ่งเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีโทษไล่ออกจากราชการได้ครับ ใครก็ได้ช่วยที”

คม หักศอก บอกว่ารายการนี้ไม่มีใครช่วยท่านหรอก  เพราะพวกเขาทนกันได้  ส่วนคนที่ทนไม่ได้  เดี๋ยวก็ชินไปเอง  แต่ถ้าจะมีการร้องเรียนไปที่ อว. จริงๆ  อยากให้เพิ่มเรื่องเหล่านี้เข้าไปด้วย  คือ  คุณปอสิตมีความผิด ตาม พรบ.มหาลัย ปี 47 มาตรา  33 วรรค 2 “ในกรณีที่ไม่มีผู้รักษาการแทนอธิการบดีตามความในวรรคหนึ่ง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี  ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 29 คนหนึ่ง เป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดีแต่ต้องไม่เกิน 180 วัน”

มีเสียงค้านว่า “ทำไมนางแต้มแห่งสารขัณฑ์ทำได้ละ รักษาการอยู่ถึง 4 ปี ไม่เห็น อว.ตั้งกรรมการมาสอบสวนเลย” ตอบว่า “เพราะนางแต้มไม่ได้เป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา แต่คุณปอสิตเป็นข้าราชการฯ ฉะนั้น กรณีนี้คุณปอสิตจะถูกตั้งกรรมการสอบสวน และอาจถูกไล่ออกจากราชการได้”

นอกจากนั้น ให้นำเรื่องการหักเงินเดือนพนักงาน  1.5/1.7 พ่วงเข้าไปด้วย เพราะคุณปสิตไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2542 ที่ให้เพิ่มค่าจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยโดยให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเงินเดือนข้าราชการแรกบรรจุบวกเพิ่มร้อยละ 70 หรือ 1.7 เท่า สำหรับสายผู้สอน และบวกเพิ่มอีกร้อยละ 50 หรือ 1.5 เท่า สำหรับบุคลากรสายสนับสนุน และมิให้กำหนดค่าจ้างต่ำกว่านี้ การกระทำของคุณปอสิตจึงเป็นการละเมิดตามนัยมาตรา 420 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์” 

ใครก็ได้ที่ถูกหักเงินเดือน ร้องเรียนไปเลย ไม่เสียหายอะไร แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบนะ ส่งผ่านจากผู้บังคับบัญชาระดับต้นขึ้นไปจนถึงคุณปอสิต ซึ่งเท่ากับบอกเธอล่วงหน้าว่า “ฉันจะทุบหม้อข้าวเธอแล้วนะ จะบอกให้”

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *