จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง  (โทษวินัยร้ายแรง)

วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2564

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง  (โทษวินัยร้ายแรง)

24

ผู้สันทัดกรณีบอกมาว่า “เมื่อสองวันก่อนสภามหาวิทยาลัยกำแพงมณี  มีการประชุม และมีการอ่านคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นที่ไม่มีคำสั่งให้ทุเลาคำสั่งที่สภามีมติการสรรหาอธิการบดีตามคำขอของผู้ฟ้อง  ปรากฎว่าคุณปอรสิตและลิ่วล้อรู้สึกดีใจกันจนออกนอกหน้า คิดว่าชนะคดีแล้วนั้น เป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ ก็ทำให้สงสัยว่า ในสภามีนักกฎหมายหลายคนนั่งเป็นหัวหลักหัวตออยู่ได้อย่างไร ที่ไม่อธิบายให้คุณปอรสิตเข้าใจว่า การที่ศาลปกครองชั้นต้นไม่มีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวตามคำฟ้องของผู้ฟ้อง มิได้หมายถึงคุณชนะคดีแล้ว เพียงแต่หมายความว่าการที่สภาเลือกคุณปอรสิตก็ไม่มีผลอะไรเลย จึงไม่จำเป็นคุ้มครองชั่วคราวแต่อย่างใด เพราะการที่ศาลรับคำฟ้องแล้วก็จะมีผลให้การเสนอเพื่อโปรดเกล้าฯ ก็ต้องหยุดการดำเนินการทันทีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งใช้เวลา ประมาณ 9 ปี (อ้างอิงกรณี มรภ.พิบูลสงคราม) กรรมการสภาบางคนน่าจะรู้เรื่องนี้ดี ว่าในขณะนี้คดียังไม่ถึงที่สุด

การกระทำของ คุณปอรสิตซึ่งคุณปอรสิตรู้หรือควรรู้ว่า  เรื่องการสรรหาอธิการบดียังไม่มีข้อยุติอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลปกครอง ยังบังอาจดำเนินการเสนอเรื่องเพื่อแต่งตั้งอธิการบดี น่าจะเข้าข่ายความผิดฐานขัดคำสั่งนายกรัฐมนตรี ตามหนังสือสำนักเลขาคณะรัฐมนตรีที่ 0508/ว101 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 39 แห่ง พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 มีโทษถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออก”

ตามที่ผู้สันทัดกรณีว่ามา คุณปอสิตน่าจะเข้าใจได้ชัดเจนว่า  การขอโปรดเกล้าฯนั้นทำไม่ได้ แต่คุณปอสิตอาจสวมวิญญาณ ศรีธนญชัย โดยอ้างว่า การขอโปรดเกล้าฯนั้น เป็นเรื่องของสภา เธอไม่เกี่ยว แต่ตาม มาตรา 42 ระบุว่า “ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาต้องไม่กระทำการ หรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาประโยชน์อันอาจทำให้เสื่อมเสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน การกระทำดังกล่าวให้ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัย” ฉะนั้น ลาออกเถอะครับคุณปอสิต อยู่ไปก็เสื่อมเกียรติศักดิ์เปล่าๆ ดีไม่ดีโดนไล่ออกหรือติดคุกด้วย

หมายเหตุ : โทษทางวินัย  ตาม ม. 48 มี 5 สถานคือ (1) ภาคทัณฑ์ (2) ตัดเงินเดือน (3) ลดขั้นเงินเดือน) (4)ปลดออก (5) ไล่ออก

ผู้ใดถูกลงโทษปลดออกตามมาตรานี้ ให้มีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญเสมือนผู้นั้นลาออกจากราชการ

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *