วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2566
จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (ได้กับได้)
15
มีข้อความสั้นๆจากเพื่อน fc เกี่ยวกับการเยียวยาด้วยใจ “ถ้าได้ก็ดี จะได้ลดความขัดแย้ง ในองค์กร” เห็นด้วยครับ ไม่ต้องมากหรอก เพียงข้อเดียว คือ ออกคำสั่งให้พนักงานมหาวิทยาลัยทั้งสายผู้สอนและสายสนับสนุนการการสอนให้ได้รับเงินเดือนตามมติคณะรัฐมนตรี โดยให้มีผลย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือนหรือ 1 ปี ซึ่งไม่ยากอะไร เพราะที่อื่นเขาก็ทำอย่างนั้น ที่บอกว่าไม่ยากก็เพราะ
1.เรื่องเงินเดือน 1.5/1.7 มหาวิทยาลัยใหญ่ๆเขาจ่ายให้เต็มจำนวนทั้งนั้น เช่น ม.เชียงใหม่ ม.นเรศวรฯ เป็นต้น และสามารถทำได้โดยง่าย มีกฏหมายรองรับ อีกทั้งมีคำพิพากษาของศาลปกครองเมืองโคราชาพิพากษาไว้แล้วด้วย ส่วนจะคิดทำอะไรเพื่อประโยชน์ของพนักงานต่อไป ก็ค่อยมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ
2. เรื่องเงินเดือน 1.5/1.7 นี้ นางแต้มไม่ได้เป็นคนเริ่มต้น เกิดขึ้นในสมัยไอ้เวรตะไล ดังนั้นการยกเลิก จึงไม่ได้ทำให้นางเสียหน้า กลับเป็นผลดีกับนางเสียอีก เพราะเป็นการปลดแอกที่ไอ้เวรตะไลคล้องคอไว้ (ยกเว้นหลานมัน) ทำให้ทุกคนมีรายรับเพิ่มขึ้น เป็นผลดีแก่ทั้งพนักงานและครอบครัว เท่ากับเป็นการเยียวยาถูกจุด ความเกลียดชังก็จะทุเลาเบาบางลง
3.เงิน 1.5/1.7 เป็นงบแผ่นดิน เป็นเงินหลวง ไม่ใช่เงินของนางสักหน่อย เพียงใจกว้างขึ้นเพียงเล็กน้อย ผลดีเกินกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็ม 150 เสียอีก เห็นไหมล่ะว่า การแสดงน้ำใจเพียงเล็กน้อยก็ได้ผลคุ้มค่า โดยไม่เสียอะไรเลย มีแต่ได้กับได้
ส่วนกรณีอื่นๆก็ว่ากันไปตามกฏหมาย และที่แน่ๆการฟ้องร้อง เรื่องเงินเดือนที่เป็นคดีที่ศาลปกครองเป็น 100 คดี จะได้เลิกรากันไปเสียที่ ส่วนคดีอื่นๆก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า ใครทำกรรมดีก็ได้รับผลดี ใครทำกรรมไม่ดีได้รับผลไม่ดี
ครับ วันพฤหัสบดีนี้ เป็นวันดี ขอให้นางแต้มจงกลับมาสู่ผู้ที่มีวิญญาณของความเป็นครูอย่างแท้จริง มีจิตใจที่บริสุทธิ์ งดงามตามวัย แจ้งประจักษ์ในความทุกยากของผู้อื่น และทำสิ่งที่เป็นคุณูปการต่อประชาคมชาวสารขัณฑ์ เพื่อลดความขัดแย้งในองค์กร เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญก็จะปรากฏ ประกายความหวังขององค์กรก็จะเริ่มต้นขึ้นเสียที
….