จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (ตัวการ)

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2566

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (ตัวการ)

20

เมื่อมีนา จัน ถามว่า “แกมีเรื่องถูกฟ้องคดีหมิ่นประมาท รู้สึกกังวลบ้างไหม?”

คม หักศอก ตอบว่า “ก็ต้องมีซิวะ ไม่ใช่โต๊ะ เก้าอี้นี่ จะได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ไม่วิตกมากหรอก เพราะ “ชีวิตคือเรื่องราว หากไร้เรื่องราวชีวิตก็ไม่มีความหมาย”  ฉันว่า ไม่ว่าใครก็มีเรื่องราวของตนเองแทบทั้งนั้น มีทั้งเรื่องดีที่ทำให้บรรเทิงรื่นเริงใจ มีความสุข และมีเรื่องร้ายที่ทำให้ขุ่นข้องหมองใจ เกิดความทุกข์  แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งถ้าคิดว่ามันเป็นปัญหา ก็เป็นปัญหาปกติ ไม่ต้องวิตกกังวลอะไรมากนัก ก็แก้ไขกันไป เหมือนที่ ผศ.ดร.สาโรช เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ดร.สาโรช กัลยาณมิตร ที่ชอบพูดอยู่เสมอว่า “ปัญหามีไว้ให้แก้” ส่วนผู้สันทัดกรณี บอกว่า “เรื่องถูกฟ้องไม่น่ามีปัญหาอะไร ก็เพียงแต่ทำให้รำคาญใจเท่านั้น”

ความจริงแล้ว ทุกคนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง แต่บางเรื่องราวก็เป็นปัญหาหนักอึ้ง อย่างเช่นถูกผู้บังคับบัญชาเกลียดชัง และกลั่นแกล้ง โดยการสั่งปลดออกจากราชการ ซึ่งถือเป็นเรื่องเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจ จนยากที่จะทนทานได้  ดังนั้น การได้ระบาย โดยการบอกกล่าว เล่าเรื่องราวของตนเองให้คนที่เข้าใจได้ฟัง  ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยผ่อนคลายความทุกข์ยากได้  ซึ่งอาจกระทำโดยการเล่าเรื่องราวให้ฟัง เขียนให้อ่าน  บอกเล่าถึงความเจ็บปวด  ความคับข้องใจ ความน้อยเนื้อต่ำใจ  ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือวิธีบำบัดรักษา ที่สามารถสร้างขวัญและกำลังใจ ให้มีพลังที่จะต่อสู้และแก้ปัญหาที่รุ้มเร้าให้ลุล่วงไปได้

และนี่เอง จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่เปิดโอกาสให้เพื่อน Fc ได้ระบายความคับข้องใจ เพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวดเหล่านั้นให้ทุเลาลงได้บ้าง

ผมนั้น ทุกครั้งที่มีโอกาสได้นั่งฟังเรื่องราวของใครก็ตามที่ได้รับความเดือนร้อน ผมจะรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างสูงและมีความสุขที่ได้รับโอกาสนั้น ที่ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก ให้สามารถผ่อนคลายได้ในระดับหนึ่ง

และตอนนี้ดูเหมือนว่า “ผมก็กำลังต้องการคนรับฟังเรื่องราวของผมเหมือนกัน ที่จะเล่าประสบการณ์ของการสู้คดีอาญาในข้อหาหมิ่นประมาทครั้งนี้  แต่กรุณาระมัดระวังการแสดงความคิดเห็น ที่ต้องอยู่ในกรอบของกฏหมาย อาญา ม.329 ที่ระบุว่า “ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต (1) เพื่อความชอบธรรม  ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม (2) ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่ (3) ติชม ด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ หรือ (4) ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรม เรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท” มิฉะนั้น ท่านอาจตกเป็นจำเลยในฐานะ “เป็นตัวการ” ในคดีหมิ่นประมาทไปพร้อมกับผมด้วย ซึ่งมีความผิดตามกฏหมายอาญา มาตรา 83 ที่ระบุว่า “ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่ สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น”

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *