จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (กัดไม่ปล่อย)

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (กัดไม่ปล่อย)

วันนี้ หญิงกล้า บอกว่า “มีหลักสูตรด้านทุจริตศึกษา (Anti-corruption Education) ในมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ให้นักศึกษาได้เล่าเรียน เพื่อให้นักศึกษามีจิตสำนึกดี ไม่ทุจริต คอรัปชั่น แต่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์เอง..กลับมีอาจารย์ใช้วุฒิการศึกษาไม่ถูกรับรองจากสำนักงาน ก.พ. อย่างถูกต้อง คือ ไอ้อัปรีซ่า (คณบดีวิทยาการ) ใช้ตำแหน่งหน้าที่ของ ดร.กำมะลอ แสวงหาผลประโยชน์ทั้งสอน งานวิจัย ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ คณบดีและกรรมการตรวจต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์

ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง แนวทางการจัดการข้อร้องเรียนและการกล่าวโทษ ข้อ 9 ประเภทข้อร้องเรียน แบ่งเป็น 6 ประเภท คือ 1.การจัดการศึกษาไม่ได้คุณภาพ 2. การบริหารงานบุคคล เช่น การบรรจุและแต่งตั้ง การเลื่อนตำแหน่ง การสรรหา การลา การกำหนดค่าตอบแทน การเปลี่ยนและโอนย้ายตำแหน่ง เป็นต้น 3. ทุนการศึกษา 4. การคัดลอกผลงานทางวิชาการ 5. การซื้อ-ขายปริญญาบัตร 6. ข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ  ทั้ง 6 ข้อ วุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอกของไอ้อัปรีซ่า (คณบดีวิทยาการ ม. สารขัณฑ์) ดร.กำมะลอ ตรงกับข้อที่ 5 (การซื้อ-ขายปริญญาบัตร) ถือได้ว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ ทุจริตในภาครัฐ ไม่มีผู้ใดตรวจสอบ ดำเนินการ ปล่อยปะละเลยให้กระทำความผิดซ้ำซาก ซึ่งขัดกับ พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 ส่วนที่ 6 หลักธรรมาภิบาล

            มาตรา 19 สถาบันอุดมศึกษาและบุคลากรต้องปฏิบัติหน้าที่ตามหลักธรรมาภิบาล สถาบันอุดมศึกษาต้องจัดให้มีระบบควบคุมภายในและระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและขจัดการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และการทุจริตและประพฤติมิชอบ

            มาตรา 21 นายกสภาสถาบันอุดมศึกษาและกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาต้องเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีธรรมาภิบาล

ความผิดเห็นแจ้งแดงแจ๋ของไอ้อัปรีซ่า (คณบดีวิทยาการ ม. สารขัณฑ์) ดร.กำมะลอ หากไม่จัดการมีแต่จะเกิดความเสียหายในภายภาคหน้า

เอ๊ะๆ….เดี๋ยวนะ เข้าไปเห็นในเว็บไซต์ มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ได้นำมาตรการทางกฏหมายเกี่ยวกับการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนขึ้นเว็บไซต์อยู่ ข้อ 3 ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน 9 ข้อ

(1) การยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรม

(2) การมีจิตสํานึกที่ดีซื่อสัตย์สุจริตและรับผิดชอบ

(3) การยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

(4) การยืนหยัดทําในสิ่งที่ถูกต้องเป็นธรรมและถูกกฎหมาย

(5) การให้บริการแก่ประชาชนด้วยความรวดเร็วมีอัธยาศัยและไม่เลือกปฏิบัติ

(6) การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วนถูกต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง

(7) การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงานรักษามาตรฐานมีคุณภาพโปร่งใสและตรวจสอบได้

(8)การยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(9) การยึดมั่นในหลักจรรยาวิชาชีพขององค์กร

ข้อ 5 ให้ข้าราชการต้องแยกเรื่องส่วนตัวออกจากตำแหน่งหน้าที่และยึดถือประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนโดยอย่างน้อยต้องวางตนดังนี้

 (1) ไม่นําความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ตนมีต่อบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องพรรคพวกเพื่อนฝูงหรือผู้มีบุญคุณส่วนตัวมาประกอบการใช้ดุลยพินิจให้เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลนั้นหรือปฏิบัติต่อบุคคลนั้นต่างจากบุคคลอื่นเพราะความชอบหรือชัง

 (2) ไม่ใช้เวลาราชการเงินทรัพย์สินบุคลากรบริการหรือสิ่งอํานวยความสะดวกของทางราชการไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของตนเองหรือผู้อื่นเว้นแต่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมาย

 (3) ไม่กระทำการใดหรือดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติการใดในฐานะส่วนตัวซึ่งก่อให้เกิดความเคลือบแคลงหรือสงสัยว่าจะขัดกับประโยชน์ส่วนรวมที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน้าที่ทั้งนี้ในกรณีมีความเคลือบแคลงหรือสงสัยให้ข้าราชการผู้นั้นยุติการกระทำดังกล่าวไว้ก่อนแล้วแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหัวหน้าส่วนราชการและคณะกรรมการจริยธรรมพิจารณาเมื่อคณะกรรมการจริยธรรมวินิจฉัยเป็นประการใดแล้วจึงปฏิบัติตามนั้น

ที่นำมาทั้งหมดทำไม่ได้สักข้อ เอาขึ้นดูดีเฉย ๆ  แค่เพียงเรื่องไอ้อัปรีซ่า (คณบดีวิทยาการ ม. สารขัณฑ์) ดร.กำมะลอ ก็ใช้ความเป็นพรรคพวกช่วยเหลือกันแล้ว ไม่มีคุณธรรมและจริยธรรม ไม่มีจิตสํานึกที่ดีซื่อสัตย์สุจริตและรับผิดชอบ และไม่ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ชั่งน่าอายซะเหลือเกินอุตสาห์นำขึ้นเว็บไซต์แต่ทำไม่ได้สักข้อ

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *