จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (สู้กับสิงโตดีกว่า)

วันวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (สู้กับสิงโตดีกว่า)

คำคมที่ผมชอบใช้ว่าเพื่อนให้เจ็บๆ เวลาคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็คือ “พูดกับคนโง่ สู้กับสิงโตดีกว่า” หมายความว่า รู้แพ้รู้ชนะกันโดยเร็ว ไม่ต้องเสียเวลามาก  ที่เอาเรื่องนี้มาพูกก็เพื่อจะบอกว่า ผมตัดสินใจผิดพลาดที่มาเขียนเรื่องอีแต้ม ซึ่งไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไร คาราคาซัง น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน คนเหี้ยอะไรก็ไม่รู้  ด้านสุดๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้แต่แรก ผมตัดสินใจไปสู้กับสิงโตแล้ว ใครอยู่ใครไปก็รู้กัน ซึ่งผมอาจจะเสร็จเจ้าสิงโต  แต่อย่างที่หลวงพ่อชา ท่านว่า “ไม่มีอะไรแน่” สิงโตอาจจะเสร็จผมก็ได้ คือ เมื่อมันเห็นผมซึ่งเป็นเหยื่ออันโอชะ ก็รีบวิ่งกระโดดเข้าใส่ผม แต่ปรากฏว่ามันสะดุดตอไม้ ล้มหัวฟาดเสร็จไปก่อน 5555 ผมชนะ

เรื่องอีแต้ม ทำไมผมถึงว่าตัดสินใจผิดพลาด ก็เพราะอีแต้มไม่ใช่ “โง่”อย่างเดียว มัน“วิกลจริต”ด้วย เลยเอาชนะมันอยาก  ซึ่งผมก็เคยพูดอีกเหมือนกันว่า คนที่จะเอาชนะอีแต้มได้ ก็ต้องเป็นคนที่ “บ้ากว่า” ซึ่งก็มีแล้ว  คือ หญิงกล้า ได้ข่าวว่าฟ้องอีแต้มเป็นสิบๆคดี  ร้องเรียนอีแต้มไปทุกแห่งทุกที่ และยิ่งตอนนี้ได้ข่าวว่าไปร่วมมือกับ อ. ที่ ม. ลิกอร์ ซึ่งบ้า พอกัน รวมทั้ง คม หักศอก ซึ่งก็เป็นคนประเภทบ้าๆ ฉะนั้น สามแรงแข็งขัน  เอาชนะอีแต้มไม่ได้ให้มันรู้ไป  อีแต้มเอ้ย อย่าเสือกเดินสะดุดต่อไม้ หัวฟาดเสร็จไปเสียก่อนก็แล้วกัน

วันนี้ ผศ.ดร. La Ph บอกว่า “อิดหนาระอาใจกับพฤติกรรมของนางแต้ม กระสันอยากเป็นผู้บริหารตลอดชีวิต แต่ไม่เข้าใจ ไม่ยอมเข้าใจ ไม่ตระหนัก ไม่สำนึก ไม่มีจิตวิญญาณและคุณธรรมของผู้บริหารที่ดีแม้แต่ 0.001 % ….ยึดตัวเองเป็นหลัก โดยมีโลภ โกรธ หลงเป็นที่ตั้ง เห็นแก่ได้ เห็นแก่พวก บ้าอำนาจ เผด็จการ…100%เต็ม”

เรื่องนี้ ท่าน Thai Land  บอกว่า  “ยิ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ควรมีจิตใจกว้างดั่งทะเลมหาสมุทรเป็นที่พึ่งให้แก่ลูกหลานเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ปุถุชนคนรุ่นหลังให้ระลึกนึกถึง กฎ ระเบียบ กติกา ควรระลึกยึดไว้ แก่สังคม จากเมื่อก่อน เคยอ่านเพชรพระอุมา มีเล่มจบ แต่ยุคนี้ อ่าน ม.สารขัณฑ์ อื้ม มีเเบบนี้ด้วย จะมีเล่มจบไหม? น่ะ? ติดตามครับ ”

และท่านเสริมว่า “มุมมองส่วนตัวผมมองว่า ความหน้าด้านของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีสายสัมพันธ์เอื้อประโยชน์ต่อกัน จนใช้ช่องกฎหมายซื้อเวลาต่อลมให้ใจ ไม่กล้าจัดการ ทำให้เกิดเป็นลักษณะนี้ ในประเทศนี้ครับ สำหรับพนักงานมหาวิทยาลัย แทบไม่มีราคา ไม่มีเกียรติศักดิ์ศรีเท่ากะลูกศิษย์ที่ไปบรรจุใหม่ด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ อุดมศึกษาเป็นองค์กรพัฒนาชาติ แต่กลับมอบอำนาจการบริหาร        ห่วยแตก ขาดการดูแล จากระบบดังกล่าว ซึ่งระบบนี้ยังมิได้รับการแก้ไขและคงจะยากครับ หากแต่ถ้าคิดมุม + เอ่อก็บริหารจัดการชีวิตของตัวเอง ให้มีความสุขไปก็จะสุขเองกะมังครับ เพราะสังคมเดี๋ยวนี้ ถือว่าตัวใครตัวมันจริงๆครับ แต่ที่ทำใจไม่ได้คือ ผู้มีอำนาจขาดคุณธรรม ขาดความละอาย คือมันมากมายที่จะบรรยายครับ เอาเป็นว่าอยู่ให้รอดไม่เจ็บไข้ได้ป่วยไม่เป็นภาระสังคม ผมว่าดูเหมือนจะเป็นคนเห็นแก่ตัวไปน่ะครับ แต่ว่าสังคมบังคับให้เป็นเช่นนี้

ขอขอบคุณ ม สารขัณฑ์ ที่สะท้อน สิ่งชั่วร้ายในสังคมออกมา จะเห็นว่า มีน้อยมากจะกล้าแสดงความคิดเห็น นี่คือประเทศไทย เรื่องที่ควรช่วยกันแสดงออก กับพากันนิ่ง แต่อยากให้ระบบมันดีขึ้น หึ! ผมว่า ไม่มีทางครับ ไม่มีอะไรที่จู่ๆจะได้มาง่ายๆในประเทศนี้ ต่อสู้ได้มาทั้งนั้นครับ ไม่งั้น เจริญไปนานแล้วครับ จนลาวจะแซงแล้ว

…..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *