จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (สิ้นไร้ไม้ตอก)

วันอังคารที่ 5 กรกฏาคม  2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (สิ้นไร้ไม้ตอก) 

5

คม หักศอก  บอกว่า เรื่องปล้นเงินเดือน 1.5/1.7 ของพนัหกงานมหาลัยนี่  ถือได้ว่าเป็นเรื่องมหาอุบาทว์ของนักวิชาการ นักการศึกษา และครูบาอาจารย์จริงๆ โกงกันเอง ปล้นกันเอง จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเป็นว่าเล่น  ขอนำความเห็นของ ผศ.ดร.ชลิดา มาฉายซ้ำ ความว่า “ไม่เข้าใจนักวิชาการ นักการศึกษา อาจารย์ เดี๋ยวนี้ทำไมชอบค้าความ สงสัย พ่อแม่ไม่ได้สั่งสอนว่า การมีคดีความน่ะ มันหัวจะปวด” “ไอ้พวกพ่อแม่ไม่สั่งสอน อันนี้ คม หักศอก ว่าเอง”

สำหรับกรณีของ ม.สารขัณฑ์ นางแต้มได้ตัดสินใจปรับเพิ่มเงินเดือนของพนักงานสายผู้สอน  ป. เอกเป็น 1.55 ป.โทเป็น 1.45 และสายสนับสนุน ป.ตรี  เป็น 1.40  โดยเริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ส่วนเงินที่หักไปเป็นจำนวนมากนั้น จะดำเนินการอย่างไร นางไม่พูดสักคำ เงียบกริบ 

เรื่องนี้ ผศ.ดร. La Ph บอกว่า “ถ้ามหาวิทยาลัยอื่นๆเขาจ่ายเงินเดือนเต็มอัตราและย้อนหลังตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด แต่สารขัณฑ์ยังทำเป็นสาระขันต่อไป ก็คงจะได้ช่วยลงขันซื้อกรงขังเหล็กแล้วจับคนใจดำขัง และนำไปทิ้งทะเลให้หมดเผ่าพันธุ์”

ส่วน ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล บอกว่า “ตกลงจ่ายให้แล้วแต่ไม่เต็ม 1.5/1.7 อย่าคิดว่าดีสิ ต้องให้จ่ายให้เต็ม ก็เขาแจ้งแล้วว่า ห้ามนำไปใช้ผิดประเภท รึงัย”

จากนั้น คม หักศอก หันมาทางมีนา จัน ถามว่า “เรื่องนี้แกมีความเห็นอย่างไร?”  “ฉันว่า นางแต้ม อธิการบดี ม.สารขัณฑ์ หรือตัวละครของแก ยังคงปล้นเงินเดือนพนักงานฯเหมือนเดิมตามสันดานโจร เพียงแต่ปล้นน้อยลงเท่านั้น แสดงให้เห็นว่านางแต้มไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี คือ มีพฤติกรรมละเมิดกฏหมายบ้านเมืองเป็นปกติ   ทั้งๆที่นางเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ จะต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด แต่นางก็ไม่ทำ ยังคงยึกยักหักเงินไว้ส่วนหนึ่งจนได้  (ใครก็ได้ ช่วยแจ้งความดำเนินคดีให้ทีเถอะ หรือไม่ก็เอาไปทิ้งทะเลอย่าง ผศ.ดร. La Ph ว่า จะได้หมดเรื่อง”

สำหรับการปรับเพิ่มเงินเดือนครั้งนี้ ฉันเชื่อว่านางแต้มกระทำโดยพลการ คือ ไม่ได้ผ่านการพิจารณาของสภามาหวิทยาลัย  ดังจะเห็นได้ว่า การเพิ่มเงินนั้นไม่มีคำสั่ง ไม่มีแบบแผนที่แน่นอนชัดเจน ไม่มีบัญชีตาราง อยากขึ้นให้ใครเท่าไรก็ขึ้นให้ ดังจะเห็นได้ว่า มีพนักงานบางคนที่เป็นญาติของเฮลบลูบอย ซึ่งเพิ่งมาอยู่ได้ไม่นาน รับไป 3,000 บาท แสดงให้เห็นว่า นางแต้มทำตัวเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัย อยากจะเพิ่มให้ใครเท่าไรก็ได้ ส่วนสภาก็เหมือน “เถ้าแก่เขาเลี้ยงไว้เป็นไม้กันหมา” ตรงนี้อยากเรียนถาม กรรมการสภาฯ ที่เป็นถึงศาสตราจารย์จาก ม.นีธาทองเมืองว่า ท่านมาทำอะไรอยู่ที่นี่  สิ้นไร้ไม้ตอกแล้วหรือ?

น่าจะยังไม่จบ

…..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *