จิปาถะ เรื่องสั้น อีแสบ (คิดแบบตูดหมึก)

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 (กรอบบ่าย)

จิปาถะ เรื่องสั้น อีแสบ (คิดแบบตูดหมึก)

1

คม หักศอก : อ่อนทั้งเลขและภาษา อ่านหนังสือไม่แตก กับคำชี้แจงของนางตูดหมึก รักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยมะกอกโคก เรื่อง แจ้งควมดำเนินคดีกับนักเรียน ต้นฉบับว่า “การที่มหาวิทยาลัยแจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมาย วัตถุประสงค์หลักเพื่อปกป้องชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประโยชน์ของมหาวิทยาลัย มิได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนักศึกษาตามที่ ผศ……………ได้รับข้อมูลมา” แล้วที่สำนักงานอัยการนำนักศึกษาส่งฟ้องศาล เมื่อ 20 กย.ที่ผ่านมา นั่นมันหมายความว่าอะไร” ยอมรับว่าโง่ครับที่ไม่เข้าใจ ที่โง่เพราะทั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัย ม.มะกอกโคกและ ไอ้เวร ที่ กทม. พวกเขาเข้าใจ” 

มีเสียงว่า “นางตูดหมึกอธิการบดี และพวกกรรมการสภาฯ เคยเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และเป็นครูอาจารย์กันทั้งนั้นนะ”

“ไปขี้เลย ไอ้พวกที่ฟ้องเด็กนี่ เป็นอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละ อย่าว่าแต่เป็นครูเลย เป็นคนยังไม่ได้ “ไอ้พวกเปรต”

เรื่องนี้มาฟังความคิดเห็นของ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล และ ผศ.ดร. La Ph   ดีกว่าครับผม

ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล : ครูใหญ่ไม่มีจิตวิญญาณความเป็นครูใหญ่คับแค่ในรั้วโรงเรียนเหมือนอึ่งอ่างที่พองตัวในแอ่งน้ำเล็กๆ ที่ไม่เคยเห็นแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลมารวมกัน ไม่เคยเห็นมหาสมุทรที่มีขอบไกลถึงปลายฟ้า และหนำซ้ำ ครูใหญ่ไม่เชื่อเรื่องบาป เชื่อแต่เรื่องบุญที่ได้หน้า และด้วยความละโมภโลภมาก จึงก่อกรรมทำเข็ญไปเรื่อย  พอเห็นคนไม่ใช่พวกเดือดร้อน อับจน ทุกข์ทรมาน ก็ยิ่งสะใจ สาแก่ใจ  แถมกระหน่ำซ้ำเติมลงไป ให้ไม่มีที่ยืนอีกด้วย  บอกให้คนเหล่านั้นมาสวามิภักดิ์ตนเอง แบบสุดลิ่มทิ่มประตูแต่ไม่สำเร็จ  ความโลภที่ไม่สิ้นสุด เมื่อมีตำแหน่ง มีอำนาจ มีเงิน ต้อง100% ที่ยอมก้มหัว  ใครที่ไม่ยอมก็ต้อง ให้หลุดวงจรแบบไปไกลๆ หรือหลุดจากขั้วไปเลย อึ่งอ่างตนนี้เลยเบ่งตัวเอง  ขยายออกไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดจบ ช่างเป็นที่น่าเวทนา คิดภาพบั้นปลายของอึ่งอ่าง เอาเองว่าจะเป็นเช่นไร

ผศ.ดร. La Ph  ครูใหญ่คิดว่าตัวเองใหญ่มาก ใหญ่คับกะลา เพราะไม่เคยเปิดใจรับรู้สังคมภายนอก อวดศักดาอยู่แต่ในกะลาใบเล็กๆ อุปมาดั่งกบในกะลา…ต้องรู้จักเปิดใจและไปศึกษาดูงานในโรงเรียนนอกกะลามาปรับใช้บ้าง เพื่อที่ครูและนักเรียนจะได้มีสิทธิเสรีภาพทางวิชาการ และครูใหญ่ “ตูดหมีกใจดำ” จะได้มีความเป็นครูในหัวใจบ้าง รู้จักรักคุณครูและลูกศิษย์เหมือนครูใหญ่โรงเรียนดีๆมีคุณภาพอื่นๆเขาทำกัน

ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล : กบมันอยู่ในกะลาครอบ เสมือนหนึ่งไม่เห็นโลกภายนอกก็พอเข้าใจ แต่อึ่งอ่างตัวนี้ ไม่มีกะลาครอบ มีแค่แอ่งน้ำรอบตัว พอแหงนหน้ามองฟ้า เลยเห็นแค่คนรอบข้าง ลมเพลมพัด ก็หมุนอยู่แค่ ในแอ่งน้ำนั้น เลยเสมือนว่า ตัวเองเป็นศูนย์กลาง น่าสงสารจริงเอย

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *